ทนายบอสพอล ซัด “ดีเอสไอ” พยายามถามชี้นำพยานดิไอคอน จ่อส่งไฟล์เสียงให้อัยการ

ทนายบอสพอล ซัด "ดีเอสไอ" พยายามถามชี้นำพยานดิไอคอน จ่อส่งไฟล์เสียงให้อัยการ

“ทนายบอสพอล” ซัด “ดีเอสไอ” สอบสวนไม่ชอบตามกฎหมาย พยายามถามชี้นำพยานฝั่งดิไอคอน จ่อส่งไฟล์บันทึกเสียงให้กับอัยการ ร้องขอความเป็นธรรม

มีรายงานว่า เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 21 พ.ย. 67 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เดินทางเข้าเยี่ยมบอสพอล พร้อมเปิดเผยถึงความคืบหน้าในแนวทางการสู้คดีว่า หลังจากที่ดีเอสไอได้เข้าสอบปากคำเหล่าบอสของบริษัท ดิไอคอน จากที่ตนได้พูดคุยกับบอสพอล ขณะนี้เตรียมนำเอกสารของดีเอสไอไปปรับปรุงใหม่ เนื่องจากเนื้อหาในเอกสารค่อนข้างชี้นำไปในทางคดีแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง โดยกำหนดกรอบระยะเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ก่อนจะส่งคืนให้กับดีเอสไอ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 24 พ.ย. แล้วจะยื่นให้กับดีเอสไอภายในวันที่ 25 พ.ย. จากนั้นจะพาพยานฝั่งของดิไอคอนเข้าให้ปากคำกับดีเอสไอในทันที

เบื้องต้นได้ประสานขอทางดีเอสไอเข้าให้ปากคำวันละ 200 คน เพื่อให้ทันกรอบระยะเวลาที่กำหนด ก่อนส่งฟ้องในวันที่ 3 ธ.ค. ตนยืนยันไม่มีเจตนาประวิงเวลา เพราะก่อนหน้านี้ได้พยายามยื่นขอประกันตัวบอสวิน แต่ศาลไม่อนุญาต ซึ่งตนก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นเรื่องของกระแสสังคมกดดัน ทุกฝ่ายก็ทำงานภายใต้กรอบระยะเวลากำหนด ทั้งนี้ตนได้รับการรายงานว่าดีเอสไอได้มีการเชิญพยานฝั่งดิไอคอน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับใกล้ชิดเหล่าบอส รวมถึงโปรแกรมเมอร์ที่เป็นลูกน้องของบอสแล็ป เข้าให้ปากคำแล้ว เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ซึ่งตนไม่รู้เนื้อหารายละเอียดในการให้ปากคำดังกล่าว

เบื้องต้นประมาณ 10-20 คน ซึ่งพยานฝั่งตนได้บอกว่าพนักงานสอบสวนของดีเอสไอพยายามถามชี้นำ เพื่อให้เข้า พ.ร.ก.กู้ยืมเงินเพื่อการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ โดยให้พูดเนื้อหาเกี่ยวกับการการันตีรายได้ ชี้นำให้ตัวแทนตอบคำถามในสิ่งที่พนักงานสอบสวนต้องการ ซึ่งได้มีการบันทึกเสียงการสนทนาไว้ทั้งหมด ในลักษณะที่ไม่ให้ปกป้องบริษัทให้ไปซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งตนจะนำไฟล์บันทึกเสียงทั้งหมดส่งให้กับอัยการ เพื่อพิจารณาการสอบสวนของดีเอสไอ และนี่จะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จะร้องขอความเป็นธรรม เพราะมองว่าเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบตามกฎหมาย สำหรับไฟล์เสียงนี้ ทางดิไอคอนจะไม่เปิดเผย แต่หากทางผู้ใหญ่ในดีเอสไอต้องการก็ยินดีที่จะส่งให้

ขณะที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้แจกเอกสารผ่านระบบไลน์ให้กับสื่อมวลชน แจ้งข่าวดีสำหรับผู้เสียหายคดีดิไอคอน โดย ปปง. เปิดให้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์รับคืน หรือชดใช้คืนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานแล้ว

ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำส่งมอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก รวม 19 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน จากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น และร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม” ให้กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แล้วนั้น

บัดนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน (รายคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก) แล้ว จึงขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชนที่เป็นผู้เสียหายในคดีดังกล่าว สามารถยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายได้ที่เว็บไซต์ ปปง. www.amlo.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย.2567 – 17 ก.พ. 2568

ทั้งนี้ หากกรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนพบทรัพย์สินเพิ่มเติม จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พิจารณาดำเนินการเพื่อเสนอพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาล และเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหายเพิ่มเติมต่อไป.