
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคู่ใจ ระบุว่า
กัมพูชาจะนำข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ “สามเหลี่ยมมรกต” (Emerald Triangle)
ซึ่งรวมถึง ปราสาทตาเมือนใหญ่ (Ta Moan Thom), ปราสาทตาเมือนโต๊ะ (Ta Moan Toch)
และ ปราสาทตาเครบี้ (Ta Krabey)
ไปยื่นต่อ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อให้ตัดสิน
ทนายรณรงค์อธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจง่าย:
1. นี่คือจุดยืนล่าสุดของกัมพูชา ที่ต้องการยกระดับข้อพิพาทเรื่องเขตแดนไทย–กัมพูชา จากระดับทวิภาคี (คุยกันเอง) ไปสู่เวทีระดับโลก
2. การไปยื่นเรื่องต่อ ศาลโลก (ICJ) หมายความว่า กัมพูชาจะขอให้ศาลพิจารณา “ใครมีสิทธิ์เหนือดินแดนที่กล่าวถึง” อย่างเป็นทางการตามกฎหมายระหว่างประเทศ
3. พื้นที่ที่พูดถึงเป็นพื้นที่ชายแดนในจังหวัดสุรินทร์–อุดรมีชัย ซึ่งไทย–กัมพูชายัง ไม่ได้ปักปันเขตแดนอย่างสมบูรณ์ และมีการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน
ความหมายทางกฎหมาย
• หากศาลโลกรับพิจารณา จะกลายเป็น “คดีระหว่างรัฐ”
• ไทยอาจต้องจัดทีมกฎหมายระหว่างประเทศ (เหมือนสมัยคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ. 2505 และการตีความซ้ำในปี 2556)
• ผลของคำตัดสิน ICJ มี ผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ หากคู่กรณียอมรับเขตอำนาจศาล
สรุปแบบเข้าใจง่าย:
กัมพูชากำลังจะ ยกระดับข้อพิพาทเรื่องดินแดนกับไทย
ด้วยการนำขึ้นศาลโลก
ไทยจึงต้องเตรียม “ทีมกฎหมาย – ข้อเท็จจริง – แผนที่ – ประวัติศาสตร์ – เจตนารมณ์ MOU ปี 2000” ให้พร้อมทุกด้าน

ทนายดัง เผยชัด หากศาลโลกรับพิจารณาเรื่องกัมพูชา อะไรจะเกิดขึ้น