นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้มีสิทธิ์ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ทุกราย สำหรับเงื่อนไขในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กำหนดให้ผู้กู้ยืมผ่อนชำระเงินคืนกองทุนฯเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน ผู้กู้ยืมต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน ให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี และในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ เมื่อชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นกองทุนฯจะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด 100% และปลดภาระผู้ค้ำประกันทันทีหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ผู้กู้ยืม 23 จังหวัด กรกฎาคม 2567กองทุนฯมีกำหนดการลงพื้นที่เพื่อทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับผู้กู้ยืม 23 จังหวัด ดังนี้ วันที่ 1 กรกฎาคม 2567
จ.ประจวบคีรีขันธ์ ณ โรงแรมประจวบแกรนด์
จ.พิษณุโลก ณ หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
วันที่ 5 กรกฎาคม 2567
จ.กำแพงเพชร ณ หอประชุมฑีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
วันที่ 7 กรกฎาคม 2567
จ.ตราด ณ บ้านปูรีสอร์ท ตราด
วันที่ 10 กรกฎาคม 2567
จ.ระนอง ณ เฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่น
จ.มหาสารคาม ณ โรงแรมตักสิลา
วันที่ 12 กรกฎาคม 2567
จ.ลพบุรี ณ แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายพระนารายณ์มหาราช
วันที่ 13 กรกฎาคม 2567
จ.สงขลา ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
จ.นนทบุรี ณ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเทศบาลนครนนทบุรี
วันที่ 14 กรกฎาคม 2567
จ.พระนครศรีอยุธยา ณ The Hall Convention Center ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันที่ 16 กรกฎาคม 2567
จ.นราธิวาส ณ หอประชุมลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
วันที่ 17 กรกฎาคม 2567
จ.นครปฐม ณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
จ.สิงห์บุรี ณ ภัตตาคารไพบูลย์ไก่ย่าง
วันที่ 19 กรกฎาคม 2567
จ.ชุมพร ณ โรงแรมลอฟท์ มาเนีย บูทีค โฮเทล
วันที่ 21 กรกฎาคม 2567
จ.หนองคาย ณ โรงแรมหนองคายธาวิลล่า
วันที่ 23 กรกฎาคม 2567
จ.สุรินทร์ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุรินทร์
วันที่ 24 กรกฎาคม 2567
จ.อำนาจเจริญ ณ ศูนย์ประชุมพุทธอุทยานอำนาจเจริญ
วันที่ 25 กรกฎาคม 2567
จ.ศรีสะเกษ ณ โรงแรมศรีนครลำดวน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2567
จ.นครศรีธรรมราช ณ โรงแรมทวินโลตัส
วันที่ 27 กรกฎาคม 2567
จ.อุบลราชธานี ณ อุบลฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอุบล
วันที่ 29 กรกฎาคม 2567
จ.ลำปาง ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
วันที่ 31 กรกฎาคม 2567
จ.ลำพูน ณ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
จ.นครราชสีมา ณ เซ็นทรัลนครราชสีมา
กองทุนฯได้เปิดให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.- 28 มิ.ย. 2567 มีผู้กู้ยืมทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จำนวน 67,194 คน
สำหรับผู้กู้ยืมที่อยู่จังหวัดต่าง ๆ สามารถติดตามกำหนดการลงพื้นที่จากทางหน้า เว็บไชต์ กยศ. ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้กู้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ รวมถึงลดกระบวนการดำเนินคดี/บังคับคดี และทำให้มีเงินหมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา รุ่นน้องต่อไป เอกสารที่ต้องเตรียมในวันทำสัญญา
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเงิน จำนวน 1 ฉบับ (ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง)
สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มก่อนฟ้องคดี
กลุ่มที่บอกเลิกสัญญาแล้วแต่ยังไม่ฟ้องคดี
กลุ่มที่ฟ้องคดีแล้วแต่ศาลยังไม่มีคำพิพากษา
กลุ่มที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วแต่ยังไม่บังคับคดีและได้บังคับคดีไปแล้ว
กลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมด
เงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้
ผู้กู้ยืมจะต้องผ่อนชำระเงินคืนกองทุนเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน
ผู้กู้ยืมต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี
ในการชำระเงินงวดสุดท้าย ผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
การคำนวณยอดหนี้ที่จะนำมาปรับโครงสร้างหนี้
กองทุนฯ จะนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด
ในกรณีคำนวณยอดหนี้ใหม่แล้วไม่มียอดหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยคงเหลือ กองทุนฯจะปรับโครงสร้างหนี้ให้ผู้กู้ยืมและให้ส่วนลดเบี้ยปรับ 100% โดยถือว่าผู้กู้ยืมได้ชำระหนี้ปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว
สำหรับผู้กู้ยืมที่มียอดหนี้คงเหลือและอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ กองทุนฯจะนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายนับแต่วันครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณตัดชำระหนี้ใหม่ จากเดิมตัดเบี้ยปรับ ดอกเบี้ย และเงินต้น แต่เมื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่จะตัดเงินต้น (เฉพาะส่วนที่ครบกำหนด) ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ
อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี และอัตราเบี้ยปรับ 0.5% ต่อปี
ในส่วนของเบี้ยปรับทั้งหมด กองทุนฯจะพักแขวนไว้ เมื่อผู้กู้ได้ทำการชำระหนี้ปิดบัญชีจะได้รับส่วนลดเบี้ยปรับ 100%
เมื่อทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากสัญญาค้ำประกันเงินกู้ทันที
ในกรณีที่ผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สะสมถึง 6 งวด หรือเมื่อผู้กู้ยืมมีงวดผ่อนชำระเหลือไม่ถึง 6 งวด หากผิดนัดชำระงวดใดงวดหนึ่งถือว่าผิดนัดชำระหนี้ทั้งหมด ให้ถือว่าสัญญาปรับโครงสร้างหนี้สิ้นสุดลง กองทุนฯจะนำเบี้ยปรับที่ตั้งพักแขวนไว้กลับคืนมาเป็นทุนทรัพย์เพื่อดำเนินการฟ้องร้องหรือบังคับคดีกับผู้กู้ยืมต่อไป