6 ส.ค.67 คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ประชุมพิจารณาวินิจฉัยคดีที่เป็นที่สนใจและมีคำวินิจฉัยเรื่องอุทธรณ์ของ พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาลโดยได้ส่งคำวินิจฉัยไปให้ผู้อุทธรณ์และคู่กรณีในอุทธรณ์ทราบ ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ได้รับคำวินิจฉัยแล้ว
พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาล ได้อุทธรณ์ว่าคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ ๑๗๘/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่สั่งให้ผู้อุทธรณ์ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจพิจารณาและวินิจฉัยให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและมีคำขออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจากกรณีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนมีการนำเสนอความเห็นผ่านสื่อสารมวลชน
จำนวนมาก โดยมีความเห็นที่หลากหลายแตกต่างกันทั้งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างกว้างขวาง ก.พ.ค.ตร.ได้พิจารณาวินิจฉัยตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ และตามกฎ ก.พ.ค.ตร.ว่าด้วยอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งกำหนดให้ใช้วิธีการไต่สวน และได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนแล้ว
เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ
พิจารณาและวินิจฉัยให้เพิกถอนคำสั่งดังดังกล่าวและมีคำขออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกรณีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนมีการนำเสนอความเห็นผ่านสื่อสารมวลชน จำนวนมาก โดยมีความเห็นที่หลากหลายแตกต่างกันทั้งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอย่างกว้างขวาง ก.พ.ค.ตร.ได้พิจารณาวินิจฉัยตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ และตามกฎ ก.พ.ค.ตร.ว่าด้วยอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งกำหนดให้ใช้วิธีการไต่สวน และได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง
โดยคู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งแสดงพยานหลักฐานของตนแล้วข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ คำขอคุ้มครองชั่วคราว คำชี้แจงของข้อุทธรณ์ คำเก้อุทธรณ์ของคู่กรณีในอุทธรณ์ คำชี้แจงและเอกสารที่เกี่ยวข้องของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และการแถลงด้วยวาจาของคู่กรณีทั้งสองฝ่ายรับฟังได้ว่าผู้อุทธรณ์ได้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา
และถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง คู่กรณีในอุทธรณ์ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาผู้ออกคำสั่งอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ มาตรา ๑๐๕ มาตรา ๑๐๗ มาตรา ๑๓๓และมาตรา ๑๗๙ ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๔๗ ออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
วินิจฉัยว่า คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ ๑๗๘/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๑๘ เมษายนพ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นคำสั่งที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กฎหมายและ กฎ ก.ตร. กำหนดและเป็นการใช้ดลพินิจที่เหมาะสม จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายวินิจฉัยยกอุทธรณ์และยกคำขอกำหนดวิธีการชั่วคราวของผู้อุทธรณ์