“รังสิมันต์ โรม” ลั่นแล้ว หลังมีคำสั่ง ยุบพรรคก้าวไกล 2570 เจอกัน

วันนี้ (7 สิงหาคม 2567) เวลา 15.00-16.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดี กกต. ร้องศาลรัฐธรรมนูญจากกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) (2)

โดยศาลอ่านคำวินิจฉัยมีมติเป็นเอกฉันท์ สั่ง ยุบพรรคก้าวไกล และสั่งตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทั้งชุดที่ 1 และ 2 ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 25 มีนาคม 2564 จนถึง 31 มกราคม 2567 รวมทั้งสิ้น 11 คน เป็นเวลา 10 ปี ได้แก่

( 1 ) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ

( 2 ) ชัยธวัช ตุลาธน อดีตเลขาธิการพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ

( 3 ) ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค

( 4 ) ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค

( 5 ) ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตกรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ

( 6 ) สมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคใต้

( 7 ) อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคกลาง

( 8 ) อภิชาต ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

( 9 ) เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคตะวันออก ส.ส.บัญชีรายชื่อ

( 10 ) สุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนปีกแรงงาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ

( 11 ) อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคเหนือ

 

“รังสิมันต์ โรม” ลั่นแล้ว หลังมีคำสั่ง ยุบพรรคก้าวไกล 2570 เจอกัน

 

ล่าสุด ส.ส.รังสิมันต์ โรม ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม ระบุว่า

"รังสิมันต์ โรม" ลั่นแล้ว หลังมีคำสั่ง ยุบพรรคก้าวไกล 2570 เจอกัน“รังสิมันต์ โรม” ลั่นแล้ว หลังมีคำสั่ง ยุบพรรคก้าวไกล 2570 เจอกัน

[ ไม่ว่าพรรคใหม่เราจะชื่ออะไร 2570 สีส้มทั้งแผ่นดิน ]

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่อนาคตใหม่จนมาถึงก้าวไกล เราผลักดันวาระก้าวหน้าต่อประชาชนต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลักดันการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร สมรสเท่าเทียม การแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ รวมถึงการมีนโยบายเพื่อส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนผ่านนโยบายต่าง ๆ ของพรรค แต่เรากลับเผชิญด้วยข้อหาที่รุนแรงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลาย จนกระทั่งในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย “ยุบพรรคก้าวไกล”

ในระบอบประชาธิปไตยพรรคการเมืองแต่ละพรรคมีชุดคุณค่า อุดมการณ์ และถือความหวัง ความฝันของพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคการเมืองนั้นมาผ่านการสร้างนโยบายและดำเนินนโยบายตามที่ประชาชนต้องการ เรายืนยันว่าการทำลายพรรคการเมืองแบบเดียวที่ยอมรับได้คือคำพิพากษาจากประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น กระบวนการนิติสงครามด้วยการยุบพรรคจึงเป็นการตัดรอนความเชื่อมั่นของประชาชนจากระบอบประชาธิปไตย และไม่ใช่วิธีสร้างความเข้มแข็งเพื่อให้ประชาธิปไตยตั้งมั่นในประเทศไทยได้เลย ถ้าหากเรายืนยันและทำเสมือนว่าการไล่ยุบพรรคด้วยกระบวนการที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนเช่นนี้เป็นเรื่องปกติ ก็จะทำให้วิธีการนี้ถูกใช้ในการทำลายความฝันของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั้นหมายความว่าถ้ามีกลุ่มคนที่ที่มีความฝันและคิดอ่านคล้าย ๆ กัน รวมตัวกันตั้งพรรคการเมือง เเละเสนอนโยบายต่อประชาชน แต่ถ้าหากคิดต่างจากรัฐหรือชนชั้นนำ ก็จะถูกทำลายลงอย่างไม่ไยดีใช่หรือไม่

เราต้องช่วยกันยืนยันว่านโยบายของพรรคก้าวไกลคือสิ่งทีสังคมนี้ต้องการ ต้องช่วยกันยืนยันว่าสิ่งที่ก้าวไกลทำมาโดยตลอดเพื่อแก้ปัญหาคือสิ่งที่คนไทยต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดโปงระบบตั๋ว ส่วย การละเมิดสิทธิมนุษยชน การทุจริต รวมถึงนโยบายที่ก้าวหน้าจำนวนมาก คือสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ และยืนยันว่าเราในฐานะประชาชนจะเป็นคนที่ช่วยกันพัดโหมสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง และทำให้พรรคก้าวไกลไม่เป็นเพียงพรรคการเมือง แต่จะทำให้พรรคก้าวไกลคือผู้คนและการเดินทางของเราทุกคนเสมอ

ไม่ว่าพรรคใหม่เราจะชื่ออะไร 2570 สีส้มทั้งแผ่นดิน

"รังสิมันต์ โรม" ลั่นแล้ว หลังมีคำสั่ง ยุบพรรคก้าวไกล 2570 เจอกัน