นายจ้างสอบสัมภาษณ์ พนง. ถามคุณชอบเงินมั๊ย ก่อนได้ยินคำตอบ รีบรับเข้าทำงานทันที

นายจ้างสอบสัมภาษณ์ พนง. ถามคุณชอบเงินมั๊ย ก่อนได้ยินคำตอบ รีบรับเข้าทำงานทันที

นายจ้างสอบสัมภาษณ์ พนง. ถามคุณชอบเงินมั๊ย ก่อนได้ยินคำตอบ รีบรับเข้าทำงานทันที

เชื่อได้ว่าหลายๆคนคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการไปสมัครงานนั้น นั่นก็คือการสัมภาษณ์ บางคนเจอคำถามที่เล่นเอาไปไม่เป็น บางคนก็เกร็งเกินจนไม่กล้าที่จะตอบ โดยการสัมภาษณ์เป็นการทดสอบทักษะวิชาชีพและประสบการณ์ที่สั่งสมมาเท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบทางจิตวิทยาเพื่อประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครอีกด้วย

ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยหากบางครั้งในระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้สมัครจะถูกตั้งคำถามแปลกๆ เพราะนายจ้างต้องการทดสอบปฏิกิริยา ความสามารถในการตอบสนอง และการคิดเชิงตรรกะผ่านคำตอบ ดังเช่นกรณีตัวอย่างในเว็บไซต์ SOHA การสัมภาษณ์งานรอบสุดท้ายในบริษัทแห่งหนึ่ง เหลือสมัคนที่เข้ารอบเพียง 3 คนเท่านั้น ทุกคนล้วนแต่เตรียมข้อมูลทุกอย่างอย่างรอบคอบ ทั้งวัฒนธรรมองค์กร กิจกรรม แนวคิด และโครงการทั่วไปของบริษัท

อย่างไรก็ดี คำถามในรอบสุดท้ายมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากที่พวกเขาคิด เมื่อจู่ๆ นายจ้างก็เอ่ยคำถามง่ายๆ กับเหล่าผู้สมัครว่า คุณชอบเงินหรือไม่? แม้จะดูเหมือนเป็นการพูดคุยทั่วไป แต่แน่นอนว่าคำตอบย่อมมีผลต่อการรับสมัครเข้าทำงาน

ผู้สมัครหมายเลขหนึ่งตอบว่า ฉันสนใจการเติบโตและการพัฒนาในอนาคตของฉันเมื่อได้รับตำแหน่งนี้มากกว่าค่ะ

ผู้สมัครหมายเลขสองตอบว่า หากจะพูดกันตามตรง ในโลกนี้มีใครบ้างที่ไม่ชอบเงิน ถ้ามีคนบอกว่าไม่ชอบก็คงกำลังโกหก ฉันเป็นคนซื่อสัตย์ ฉันชอบมันค่ะ

ผู้สมัครหมายเลขสามตอบว่า คนชอบเงินไม่มีอะไรเลวร้าย ไม่มีใครที่ไม่ชอบเงิน มันอยู่ที่ว่าผู้คนจะหาเงินได้อย่างไร ฉันชอบเงินที่มาจากความพยายามและการทำงานหนักของฉัน แต่ฉันจะไม่แตะต้องเงินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายค่ะ

หลังจากฟังความคิดเห็นครบแล้ว นายจ้างก็ตัดผู้สมัครคนแรกออก เพราะตำแหน่ง พนักงานขาย นี้ต้องการคนที่มีความทะเยอทะยานต่อการสร้างเม็ดเงินเป็นจำนวนมาก ก่อนที่จะเอ่ยคำถามต่อมาว่าถ้าคุณเห็นธนบัตรตกอยู่ในห้องน้ำ 5 ล้านด่อง (ประมาณ 7 พันบาท) คุณจะเก็บมันขึ้นมาหรือไม่?

ผู้สมัครหมายเลขสองตอบว่า นี่เป็นคำถามที่ท้าทาย หากธนบัตรเหล่านั้นถูกทิ้งลงในชักโครกแต่ยังดูสะอาดอยู่ ฉันจะหยิบมันขึ้นมาล้างแล้วตากให้แห้ง จากนั้นก็เก็บไว้เพื่อใช้ แต่ถ้ามันสกปรกด้วยน้ำสกปรกอยู่แล้ว ฉันก็ไม่ต้องการมัน เพราะมันมีแบคทีเรียอยู่มาก

ผู้สมัครหมายเลขสามตอบว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เงิน 5 ล้านดองไม่ใช่เงินเล็กๆ น้อยๆ การหยิบขึ้นมานั้นไม่ยาก แค่ล้างแล้วตากให้แห้งเงินก็ยังมีค่าเท่าเดิม อย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้ถูกโยนลงโถส้วมที่สกปรก คำอธิบายลึกๆ คือเมื่อต้องเผชิญกับผลกำไรที่ผิดกฎหมาย ฉันก็ไม่ต้องการมัน ถึงแม้จะหยิบขึ้นมาฉันก็จะนำไปบริการสาธารณะ หรือส่งมอบให้ตำรวจจัดการ นอกจากนี้ยังมีอีกกรณีที่มีคนจงใจโยนเงินเข้าห้องน้ำ แล้วอยากเห็นฉันหยิบมันมาทำให้ฉันขายหน้า ดังนั้นฉันจะปฏิเสธที่จะรับมันอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุดแล้วบุคคลที่นายจ้างเลือกให้เข้าร่วมงานในบริษัท คือผู้สมัครหมายเลขสาม เนื่องจากคำตอบไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นบุคลิกของเขาอย่างชัดเจน แต่ยังเน้นย้ำถึงความคิดอันลึกซึ้งของเขาอีกด้วย เขาสามารถมองเห็นแก่นแท้ของทุกสิ่งผ่านรูปลักษณ์ของมัน และมีการเตรียมการอย่างรอบคอบ มีความสามารถในการขายที่แข็งแกร่ง ดังนั้น เขาจึงเป็นผู้ที่สมควรได้รับการว่าจ้างอย่างแน่นอน

สำหรับตำแหน่งพนักงานขายของ ในแง่หนึ่งนายจ้างต้องการแสดงให้เห็นถึงความหวังและความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัท ในทางกลับกันเพื่อดูว่าเขามีความสามารถเพียงพอที่จะต้านทานความกดดันในการทำงานหรือไม่ คำถามที่สองคือการตรวจสอบว่าเขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่เมื่อถูกลูกค้าทำให้เกิดความยากลำบาก