กต.ตร.โรงพักดัง ยิงดับทหารหนุ่มอนาคตไกล ในผับเถื่อนไร้ใบอนุญาต กลางเมืองหัวหิน

กต.ตร.โรงพักดัง ยิงดับทหารหนุ่มอนาคตไกล ในผับเถื่อนไร้ใบอนุญาต กลางเมืองหัวหิน ขณะที่ชายต้องสงสัยมือลั่นไก อาจเกี่ยวข้องกับวงการสีกากี

วันที่ 18 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน รับแจ้งมีเกิดเหตุยิงกันในซอยหัวหิน 80 ซึ่งเป็นย่านธุรกิจบาร์เบียร์และร้านอาหาร เขตเทศบาลเมืองหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย

ต่อมา พ.ต.ต.สุรพงษ์ ประทุมวัน สว.สอบสวน สถานีตำรวจภูธรหัวหิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีนักดื่มหลาย 10 คน ที่อยู่ในอาการตื่นตกใจ ยืนมองดูอยู่หน้าร้าน

โดยที่เกิดเหตุ เป็นผับแห่งหนึ่งจ จากถนนเพชรเกษม เข้าไปในซอยประมาณ 50 เมตร มีลานจอดรถเป็นสัดส่วน หลังคาสีเหลือง ตัวอาคารสีเทาอมดำ ด้านนอกยังมีเต็นท์สีขาว โต๊ะขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และแก้ววางอยู่ 2 ชุด

ตรวจสอบภายในร้าน พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 31 ปี ชื่อ จ่าสิบเอกโรจนภณ (ขอสงวนนามสกุล) หรือพั้น นายสิบการข่าวกรมนักเรียน โรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี

มีร่องรอยถูกยิงหลายจุด นอนเสียชีวิตอยู่ภายในร้าน พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นยังพบผู้บาดเจ็บ อีก 1 ราย ซึ่งถูกลูกหลง กระสุนเฉี่ยวถูกแขน เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลเอกชน

ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้แก่ คุณแม่ ซึ่งเป็นข้าราชการ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา ในอำเภอปราณบุรี คุณลุง ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ รวมถึงภรรยา ซึ่งเดินทางไกลมาจาก จ.ชลบุรี และเพื่อน ต่างติดตามมายังที่เกิดเหตุ หลังทราบข่าวการสูญเสีย โดยเฉพาะภรรยา ร้องไห้เสียใจกับการสูญเสียอย่างมาก ถึงกับเป็นลมล้มพับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ต่อมาเวลาประมาณ 09.10 น. พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ทีมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แพทย์เวรโรงพยาบาลหัวหิน และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน จึงได้เข้าตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพร่างผู้เสียชีวิตภายในจุดที่เกิดเหตุดังกล่าวดังกล่าว

โดยไม่อนุญาตให้ญาติหรือบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยกระสุนปืนที่ศีรษะและลำตัว 3 แห่ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลานาน กว่า 1 ชั่วโมง จึงเคลื่อนย้าย ร่างผู้เสียชีวิต นำส่งผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร อีกครั้ง

พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตเบื้องต้นว่า ร่างผู้เสียชีวิตนำส่งผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในเบื้องต้นแพทย์เวรโรงพยาบาลหัวหิน

พบร่องรอยกระสุนปืน จำนวน 3 แห่ง ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลเบื้องต้นและพอรู้ตัวแล้ว จะรีบสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับโดยเร็ว ส่วนกรณีจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นผับ หรือสถานประกอบการ ที่ไม่มีใบอนุญาตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอตรวจสอบข้อมูลก่อน ทั้งนี้ตนจะเร่งรัดคดีเพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดโดยเร็วที่สุด

ด้านคุณแม่ ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายมาจากไปอย่างกระทันหันไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ หัวหินเป็นเมืองปลอดภัย พอมาเจอเหตุร้ายทำให้รู้สึกเสียใจอย่างมาก ก่อเหตุอุกอาจ แม่เสียใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ต้องขอบคุณผู้สื่อข่าว ที่อยู่เป็นเพื่อนแม่และญาติที่มารอดูที่เกิดเหตุ และ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยดำเนินคดีนี้ แต่อยากจะบอกว่าแม่เสียใจมาก ไม่คิดว่าคุณจะมาฆ่าแบบนี้ คุณมีปืน คุณน่าจะคุยกันดีๆ

แม่มีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกชาย คนเล็กเป็นลูกสาว ลูกชายเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูด ช่วยเหลือคุณแม่ตลอด และเป็นเด็กดีของแม่เสมอ ก่อนเกิดเหตุเพื่อนๆ มาหาลูกชายๆ จึงพาเพื่อนมาเที่ยวพักผ่อน ไม่คิดว่าเมืองที่ปลอดภัยที่สุดจะมาเกิดเหตุร้ายแบบนี้ คุณแม่เสียใจมาก

คาดหวังว่าจะสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ ซึ่งผู้ก่อเหตุ น่าจะเป็นบุคคลคนเดียวกับที่มีภาพในโซเชียล ซึ่งกลุ่มเพื่อนได้ถ่ายภาพไว้ได้ แม่คิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะนึกถึงหัวอกคนเป็นแม่ หากมีเรื่องแบบนี้กับครอบครัวคุณจะรู้สึกอย่างไร จากความสูญเสียที่เกิดขึ้น ล่าสุดแม่เพิ่งอวยพรวันเกิดให้ลูกชายที่อายุครบ 31 ปีไปเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ขอให้ลูกเป็นเด็กดี ที่ผ่านมาลูกก็เป็นเด็กดีของแม่มาตลอด เพียงแต่เค้าไม่ค่อยพูดเท่านั้น

ด้านคุณลุง ผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด แต่จากการพูดคุยกับเพื่อนของหลานชาย คาดว่าจะเกิดจากการเดินชนหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งน่าจะมากับผู้ก่อเหตุ ทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงก่อเหตุยิงหลานชายจนเสียชีวิต

ส่วนลูกค้าที่มาเที่ยวในผับดังกล่าว ระบุว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 2-3 ครั้ง จากนั้นลูกค้าหลายสิบคนได้หมอบหลบ และวิ่งหนีออกมานอกร้าน ซึ่งร้านแห่งนี้ในกลุ่มนักท่องราตรีรู้ดีว่า เป็นผับที่เปิดให้บริการ ถึงตี 4 – ตี 5 มานานกว่า 6 เดือน

มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุในคดีนี้ อาจเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวงการสีกากี ซึ่งเป็นบุคคลหน้าตาดี มีฐานะ และชื่นชอบอาวุธปืน มักจะโพสต์คลิปการซ้อมยิงปืนลงสื่อออนไลน์บ่อยครั้ง

ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นหนึ่งใน กต.ตร. สภ.หัวหิน เดินทางเข้ามามอบตัวที่ สภ.หัวหิน แล้ว ขณะที่ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด โดยสั่งปิดผับ ดังกล่าว 5 ปี และสั่งดำเนินคดีกับเจ้าของผับดังกล่าวด้วย

ขณะที่สังคมตั้งคำถามว่า ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน เหตุใดจึงปล่อยปะละเลย ให้มีการเปิดผับเถื่อน และเปิดเกินเวลา มานานกว่า 6 เดือน รวมทั้งการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในผับ ทั้งที่มีการ์ดอยู่ด้านหน้าประตู.