เตือน 7 จังหวัด ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาน้ำเหนือมาแล้ว โดยวันที่ 24 ส.ค.จากสถานการณ์น้ำทางด้านตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลทำให้หลายพื้นที่ประสบกับปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ และการบริหารน้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 3 เตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัด ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ลพบุรี ให้ทำการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาเฝ้าติดตามสถานการณ์ เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาที่เป็นกุญแจสำคัญดอกสุดท้าย ก่อนที่มวลน้ำจะเข้าสู่กรุงเทพฯ
ขณะนี้มีเกณฑ์จะระบายน้ำในอัตรา 500-700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ไปจนถึง บริเวณ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 1-1.20 เมตร และหากมีปริมาณน้ำหลากเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา มากกว่า 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เฝ้าติดตามและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ทางกรมชลประทาน ได้มีการจัดสรร และทำการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา อีก 260 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเตรียมรับมวลน้ำเหนือ