เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ยืนยันว่ากระบวนการลงทะเบียนยังเป็นไปตามกำหนดเดิม โดยผู้ที่มีสมาร์ทโฟน ยังสามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 ก.ย.นี้ บนแอปพลิเคชัน ‘ทางรัฐ’
ส่วนผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น รัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.- 15 ต.ค.2567 โดยลงทะเบียนผ่านสถาบันการเงินของรัฐ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ รวม 2,500 สาขา ถือว่าครอบคลุมแล้ว ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่มี
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดิจิทัลวอลเล็ตนั้น จะมีการแถลงอย่างละเอียดในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากนั้นจะนำรายละเอียดโครงการ ในส่วนกลุ่มเปราะบาง คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้พิการ จำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งนับเฟสแรกของโครงการ เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ ทันที เพื่อดำเนินการโอนเงินต่อไป
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะที่ความคืบหน้าของการลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านแอป ทางรัฐ สำหรับผู้มีสมาร์ทโฟนนั้น มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 32 ล้านคน ซึ่งในส่วนนี้ประเมินว่าที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง คือผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการที่จะได้รับสิทธิในเฟสแรก 10 ล้านคน ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะถูกหักออกไปเพราะได้สิทธิไปแล้ว
“เชื่อว่ากลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเปราะบางแล้ว ดังนั้น เขื่อว่ากการเปิดลงทะเบียน สำหรับกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น จะมีคนมาลงทะเบียนไม่มากนัก” นายจุลพันธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มประชาชนทั่วไป ที่ลงทะเบียนไว้ผ่าน แอป ทางรัฐ แล้ว และไม่ได้อยู่ในกลุ่มบัตรคนจน และกลุ่มผู้พิการนั้น หากตรวจสอบแล้วมีสิทธิได้รับเงิน 10,000 บาท จะได้รับเงิน 2 รอบ ได้แก่ รอบแรกช่วงปลายปี 2567 เป็นเงินสด 5,000 บาท จากนั้น ในปี 2568 จะแจกเงินอีก 5,000 บาทที่เหลือ ถ้าทำระบบจ่ายเงินดิจิทัลเสร็จทัน ก็จะรับเป็นเงินดิจิทัล แต่หากทำไม่ทันก็จะได้รับเป็นเงินสดอีกก้อนหนึ่ง