โดย ท่าน ว.วชิรเมธี โดนโซเชียลขุดคลิปและภาพร่วมงาน ดิไอคอน กรุ๊ป และมีภาพถ่ายร่วมเฟรมกับ บอสพอล ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในตอนนี้ แต่ไม่นานมานี้ ท่าน ว.วชิรเมธี ก็ได้ชี้แจงผ่านทางเพจแล้ว
ทนายเดชา ยืนยันระบุว่า เอาจริงจะไปแจ้งจับ พระบอส หรือ ว.วชิรเมธี ตอนนี้ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาบรรดาบอสให้เสร็จก่อน แล้วหลังจากนั้นเราจะรวบรวมคลิปต่างๆ ที่ผู้เสียหายส่งมา แล้วจะไปแจ้งความ เพราะพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งความเห็นส่วนตัวจากที่ได้คุยกับผู้เสียหายหลายราย ตนมองว่ามันมีส่วนทำให้คนเชื่อ เพราะว่าท่านเป็นพระท่านผู้ใหญ่
“แล้วไปพูดว่าถ้ามาทำงานกับบริษัทนี้ ขายตรง ชั่วข้ามคืนจะกลายเป็นเศรษฐี ผมมองว่าการที่เป็นพระต้องสอนให้คนลดละกิเลส ไม่ใช่สอนให้คนโลภ แล้วคุณเป็นพระชื่อดัง เพราะฉะนั้นคำพูดคำสอนของคุณมันทำให้คนเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้มันสะดวกกับการที่ไปเอาเงินเอาทองกับคน เราไม่ควรละเว้นคนใส่จีวรหรือเครื่องแบบ หรือนักการเมือง เพราะรัฐธรรมนูญ การบังคับใช้กฎหมายต้องเสมอภาค เพราะที่ผ่านมาเจ้าอาวาสเงินทอนก็ติดคุกกันมาเยอะ”
“แต่การที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับท่าน ว.วชิรเมธี จะรอจังหวะนิดนึง จะเป็นชุดที่ 2 หลังจากชุดแรก เพราะมันจะต้องมีผู้กระทำความผิดก่อน เพราะคนเหล่านี้อาจจะเป็นผู้สนับสนุน เพราะว่าอาจจะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ได้ขึ้นเวที แต่ผมจะต้องดูก่อนในส่วนของตรงนี้ ปรึกษากับผู้เสียหายแล้ว
ในแง่ของกฎหมายจะดำเนินคดีกับ ว.วชิรเมธี คือผู้สนับสนุนไม่ใช่ตัวการ เป็นลักษณะช่วยเหลืออำนวยความสะดวกก่อนขณะกระทำความผิด เพราะฉะนั้นมันจะต้องมีผู้กระทำความผิดก่อน เดี๋ยวเรามีผู้ต้องหาคดีแชร์ลูกโซ่ ผมรอตำรวจแจ้งข้อหาก่อน ว่าจะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ หรือองค์กรอาชญากรรม ล่าสุดที่ทราบอาจจะมีข้อหาเรื่องมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมด้วยหรือป่าว”
ทนายเดชาอธิบายต่อไปอีกว่า นอกจากท่าน ว.วชิรเมธี แล้ว จากที่ได้คุยกับผู้เสียหายหลายๆ คน อยากจะให้ดำเนินคดีกับ พิธีกรรายการดัง ที่เอาพวกบอสต่างๆ ไปอวย เพราะผู้เสียหายอยากให้เอาผิด ตนก็ตามใจผู้เสียหาย ตนไม่ชอบขัดใจใคร ตามพยานหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม ในช่องคอมเมนต์เพจ ทนายคลายทุกข์ ทนายเดชายังได้ระบุความ พร้อมติดแฮชแท็กแบบเดือดสุดๆ อีกว่า “ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือพระหากทำผิดกฎ หมายก็ต้องติดคุกเหมือนกันครับใหญ่มาจากไหน ก็เล็กกว่าโลง #กูไม่กลัวมึง”
