ตามรายงานระบุว่า สำหรับฐานความผิดที่จะแจ้งเพิ่มนั้น มีข้อหาร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงินเป็นหลัก นอกจากนี้อาจมีข้อหาอื่นๆ ประกอบ เช่น ความผิดตามอพรก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน รวมถึงข้อหาย่อยคือ คดีอั้งยี่และซ่องโจร เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นขบวนการในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมอีกด้วย
สำหรับการแจ้งข้อหาเพิ่มนั้น ทางพนักงานสอบสวน บชก. จะเข้าไปแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้งหมดในเรือนจำ คาดว่าจะสรุปข้อหาทั้งหมดที่จะแจ้งเพิ่มเติมได้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีทีมสืบสวนของกองปราบฯ เป็นทีมหลักในการตรวจสอบเส้นทางการเงินิและสถานะทรัพย์สินของผู้ต้องหาแต่ละราย เพื่อหาหลักฐานโยงไปสู่การกระทำความผิดฐานฟอกเงินด้วย
นอกจากจะมีการแจ้งข้อหาฐานฟอกเงินแล้ว คณะพนักงานสอบสวน บชก.กำลังหารืออย่างใกล้ชิดกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าจะรับสำนวนไปดำเนินคดีต่อตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเข้าข่ายหลักเกณฑ์เป็นคดีพิเศษ โดยคาดว่าดีเอสไอก็กำลังพิจารณาอยู่ด้วย
ส่วนการขยายผลไปยังผู้ต้องหากลุ่มที่สองนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานและให้ชุดสืบสวนแกะรอย ซึ่งจะต้องมีการออกหมายเรียก หรือหมายจับผู้ต้องหาในกลุ่มต่อไปอย่างแน่นอน อาทิ กลุ่มแม่ข่ายต่างๆ รวมถึงกลุ่มพนักงานของบริษัทบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามในเอกสารที่มีผลทางกฎหมาย ซึ่งคงต้องใช้เวลาตรวจสอบหลักฐานอีกสักระยะ