โดยที่เกิดเหตุภายในอาคารโรงน้ำแข็งมีก๊าซแอมโมเนียรั่วเป็นจำนวนมาก กระจายออกทั่วพื้นที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงนำรถ 3 คัน ฉีดน้ำเพื่อป้องกันกลิ่นสารเคมีไม่ให้ลอยฟุ้งในอากาศ รวมถึงทำให้ก๊าซเจือจางลง ก่อนส่งเจ้าหน้าที่ใช้ชุดออกซิเจนเข้าไปปิดวาล์วภายในอาคาร
ปรากฏว่าขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังระงับเหตุอยู่นั้นได้มีเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากมีอาการมึนศีรษะ หายใจขัดข้อง แสบตา บางรายถึงกับอาเจียน ทำให้เจ้าหน้าที่ประสานกู้ชีพ กู้ภัย รวมถึงรถโรงพบาล จำนวน 10 คัน เข้ามารับส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่และพนักงานโรงน้ำแข็งได้รับบาดเจ็บ 18 ราย โดยทุกคนมีอาการมึนศีรษะ แสบตา หายใจไม่ออก บางรายมีอาการอาเจียน แพทย์เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี
ทางด้าน พนักงาน เล่าว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างทำการตรวจสอบโรงงาน และในขณะที่พนักงานเข้าไปตรวจสอบบริเวณถังที่กักเก็บก๊าซปรากฏว่ามีเหล็กตกลงมาไปทับท่อก๊าซแอมโมเนียแตก จนทำให้ก๊าซรั่วออกมาเป็นจำนวนมาก ก๊าซคลุ้งไปทั่ว ทุกคนที่อยู่ภายในอาคารต่างรีบวิ่งหนีออกมาทันที ก่อนประสานเจ้าหน้าที่เข้ามาระงับเหตุดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ พร้อมตั้งกองอำนวยการประสานงานในการดูแลประชาชนในพื้นที่ โดยมีการใช้รถกระจายเสียงประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีก๊าซรั่วไหลให้สวมแมสก์ทันที พร้อมสั่งห้ามให้ใครเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ รวมไปถึงโรงเรียนต่างๆ ศูนย์เด็กเล็ก ให้มีการปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน
โดยหลังเกิดเหตุพ่อแม่เด็กต่างเดินทางมารับลูกพากลับบ้านทันที อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีได้กำชับไปยังสาธารณสุขและโรงพยาบาลปัตตานี นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสภาพร่างกายของประชาชนที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียง