สำหรับเงินที่จะใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จะใช้ที่มาแบบผสมผสาน ไม่ได้มาจากแหล่งเงินในงบประมาณเพียงแหล่งเดียว โดยส่วนหนึ่งมาจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปีงบประมาณ 68 ที่กำหนดวงเงินไว้ 180,000 ล้านบาท และบางโครงการไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ รวมถึงบางส่วนเป็นโครงการของสถาบันการเงินของรัฐ ที่อยู่ในบัญชีกิจการของรัฐ หรือพีเอสเอ
นายจุลพันธ์กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะมีการประชุมต่อเนื่อง ซึ่งจะมีความคืบหน้าไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น โดยไตรมาส 4 จะขยายตัวดีกว่าเดิม แต่รัฐบาลจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะยังมีอีกหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีปัญหา เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะ หรือภาคอสังหา ริมทรัพย์ที่ยังมีการชะลอตัว แม้ว่ามาตรการแจกเงิน 10,000 บาท สำหรับคนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรคนพิการ 14.5 ล้านคน จะได้ออกไปแล้วและมีการใช้จ่ายไปแล้วจำนวนมากก็ตาม
นอกจากนี้ ในการประชุมจะพิจารณามาตรการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยของสถาบันการเงิน ด้วยการพักดอกเบี้ยและลดค่างวด โดยที่กระทรวงการคลังจะยอมให้สถาบันการเงินลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเอฟไอดีเอฟ และอีกส่วนหนึ่งมาจากทรัพยากรของสถาบันการเงินเอง ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องการให้ลูกหนี้ที่เข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว สามารถกู้ยืมเงินใหม่ได้ เพราะในมุมมองของรัฐบาลนั้น ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าการเข้าถึงสินเชื่อแล้วจะก่อให้เกิดหนี้สิน และกลายเป็นหนี้เสียตามมา แต่เรามองว่าการเข้าถึงสินเชื่อนั้นช่วยสร้างโอกาสให้กับคน เพื่อให้เขากลับมายืนได้ด้วยตัวเอง.