ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ ป.ป.ท. ป.ป.ช. สตง. สืบสวนจับกุมเจ้าหน้าที่กองการกีฬา จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ ค่าความเสียหายต่อรัฐ 2,790,748 บาท (สองล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นเจ็ดร้อยสี่สิบแปดบาท)

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมมือหลายหน่วยงานร่วมกันสืบสวนจับกุม และแจ้งข้อกล่าวหาข้าราชการพลเรือน สังกัดกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จำนวน 7 ราย ดังนี้

จับ 7 จนท.กองการกีฬาจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ อมเงินรัฐ 2.7 ล้าน

จับ 7 จนท.กองการกีฬาจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ อมเงินรัฐ 2.7 ล้าน

1. นายดำรงค์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.19/2568 ลง 5 มี.ค.68
2. นายภูมินทร์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.20/2568 ลง 5 มี.ค.68
3. นายคมกริชฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.21/2568 ลง 5 มี.ค.68
4. นายปฏิญญาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.22/2568 ลง 5 มี.ค.68
5. น.ส.สิริกัญญาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ จ.25/2568 ลง 5 มี.ค.68
6. นายอภินันท์ฯ แจ้งข้อกล่าวหา
7. นางสาวสุชาวดีฯ แจ้งข้อกล่าวหา

จับ 7 จนท.กองการกีฬาจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ อมเงินรัฐ 2.7 ล้าน

ซึ่งกระทำผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารรับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร ร่วมกันรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ และร่วมกันรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162(1)(4) และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา กองการกีฬา กทม. ดินแดง อาคารกีฬาเวสน์ 3 ถนนมิตรไมตรี แขวง/เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติของการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีการจ้างเหมาซ่อมแซมรถโดยสารปรับอากาศ ขนาด 45-50 ที่นั่ง จำนวน 5 คัน ในหน่วยงานราชการ สังกัดกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานครจึงดำเนินการตรวจสอบเอกสารพบว่าหน่วยราชการดังกล่าวมีการเบิกฎีกาจ้างเหมาซ่อมรถโดยสารดังกล่าวในห่วงระหว่างปี พ.ศ.2565 – 2567 โดยไม่มีการส่งรถเข้าซ่อมจริง จำนวน 11 ครั้ง โดยมีกลุ่มของผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่พัสดุขออนุมัติจ้างซ่อม และทำการปลอมใบเสนอราคาของ บริษัทซ่อมรถทั้ง 5 คัน เพื่อจัดทำเอกสารเสนอราคากลางในการจ้างซ่อม แล้วดำเนินการอนุมัติงบประมาณสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จึงส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินการ

จับ 7 จนท.กองการกีฬาจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ อมเงินรัฐ 2.7 ล้าน

และมีการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในห้วงระหว่างปี พ.ศ.2565 – 2567 มีการจ้างเหมาซ่อมรถโดยสารดังกล่าว โดยที่ไม่มีการส่งรถเข้าซ่อมจริงอีก จำนวน 12 ครั้ง และกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจพบ การกระทำลักษณะเดียวกันอีก จำนวน 5 ครั้ง รวมจำนวนเงินที่กลุ่มผู้ต้องหาทำการเบิกจ่ายค่าซ่อมรถ โดยไม่มีการซ่อมจริง 28 ครั้ง หรือ 28 ฎีกาของการเบิกจ่ายงบประมาณ เป็นเงินที่มี การทุจริตทั้งสิ้น 2,790,748 บาท (สองล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นเจ็ดร้อยสี่สิบแปดบาท)

ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 กรุงเทพมหานคร จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พงส.กก.1 บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้ง 7 คน จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตามหมายจับข้างต้น

จนกระทั่งในวันที่ 12 มีนาคม 2568 ผู้ต้องหา ทั้ง 7 คน ได้ขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.1 บก.ปปป. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา