ภายหลังมีความคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ผู้ต้องหาในคดียักยอกเงินวัดหลายร้อยล้านบาท พร้อมการเปิดคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการสนทนาระหว่างทิดแย้มกับหญิงสาวชื่อ “เก็น” ล่าสุด รายการ “ลุยชนข่าว” ได้เผยบทสัมภาษณ์จากสามีของเก็น ซึ่งออกมาเปิดใจเกี่ยวกับประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น

สามีกล่าวว่า เก็นเคยเล่าว่า มีการกู้ยืมเงินจากทิดแย้มจำนวน 40 ล้านบาท โดยมีสัญญาเงินกู้จริง ตนเพิ่งทราบเรื่องในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา หลังเก็นถูกจับในรอบแรก เธอยืนยันว่าเป็นเพียงการยืมเงิน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน เป็นแค่ “ผู้เล่น” ไม่ใช่เจ้าของหรือผู้บริหารเว็บตามที่ถูกกล่าวหา
ในส่วนของเงินหลักร้อยล้านบาท สามียืนยันว่า ไม่ทราบรายละเอียด และรู้เพียงการกู้ยืมเงิน 40 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมชี้แจงว่า ข่าวลือที่ว่าอดีตเจ้าอาวาสมาเจิมบ้านหรือเคยเดินทางมาบ้านไม่เป็นความจริง พระที่มาทำบุญบ้านเป็นพระจากวัดอื่น ไม่ใช่ทิดแย้ม ข่าวดังกล่าวสร้างความเสียหายโดยไม่มีมูลความจริง
เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเก็นกับอดีตเจ้าอาวาส สามีย้ำว่า ไม่ทราบระดับความสนิท เพราะตนไม่เคยเจอทิดแย้ม เก็นเพียงเล่าว่าเคยเรียนที่วัดไร่ขิง และได้รับทุนการศึกษา ไม่เคยพาไปกราบไหว้หรือแสดงความใกล้ชิดใด ๆ
หลังเก็นถูกจับ เธอยืนกรานว่าไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมปฏิเสธว่า คลิปหลุดที่แพร่ออกมาไม่ใช่ตัวเธอ เพราะห้องน้ำในคลิปไม่ตรงกับบ้านจริง และไม่มีการวิดีโอคอลในเชิงล่อแหลม มีเพียงการคอลเพื่อคุยเรื่องเงินกู้ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่เกี่ยวกับการพนัน

สามียังย้ำว่า เชื่อใจเก็น เพราะอยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลา ไม่พบพฤติกรรมน่าสงสัย และไม่เชื่อว่าเก็นจะหลอกลวงหรือแบล็กเมลอดีตเจ้าอาวาส เขายังตั้งข้อสังเกตว่า หากเก็นเป็นเจ้าของเว็บพนันจริง คงไม่ใช้บัญชีตัวเองในการเล่น เพราะโดยทั่วไปเจ้าของจะใช้ “บัญชีม้า” แทน
ในประเด็นทรัพย์สิน เช่น บ้าน รถ คอนโดฯ ที่ถูกตั้งข้อสงสัย สามีอธิบายว่า ยังอยู่ระหว่างผ่อนชำระหลายรายการ และบางทรัพย์ปล่อยเช่ารายวันเพื่อหมุนเงินใช้จ่าย รถที่ถูกยึดก็ยังอยู่ในช่วงผ่อน รวมถึงยังมีจดหมายทวงหนี้จากการจำนองหรือขายฝากที่ดิน
ปัจจุบัน เก็นอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นประกันตัวสู้คดี ซึ่งเขายืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจ พร้อมระบุว่า ข่าวที่ออกมาหลายอย่างถูกบิดเบือน เช่น เรื่องเป็นกิ๊กหรือแบล็กเมล์ ไม่ใช่ความจริง
ท้ายสุด สามีของเก็นกล่าวว่า หากคลิปเสียงหรือหลักฐานที่ปรากฏเป็นเรื่องจริง ตนก็ยอมรับว่า “ทำใจยาก” แต่จนถึงขณะนี้ ภรรยายังคงยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมวิงวอนสื่อมวลชนรายงานตามข้อเท็จจริง อย่าปั่นกระแสเกินความเป็นจริง เพราะครอบครัวได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายรายเดือน และเก็นคือเสาหลักของบ้าน
