เกิดในราศี ตุลย์ (23 ก.ย. – 23 ต.ค.) โดยใน 100 มหาเศรษฐี คนที่เกิดในราศีตุลย์ นับเป็น 1 ใน 5 ของประชากรเศรษฐีตัวท็อปของโลก สำหรับผู้ที่เกิดราศีนี้ จะมีคุณสมบัติเป็นผู้นำที่ดี เพราะเป็นผู้มีสติปัญญาหลักแหลม มุ่งมั่น และเป็นคนเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย ในขณะที่ราศีเมษ (21 มี.ค. – 20 เม.ย.)มีจำนวนรองลงมา โดยมีมหาเศรษฐีจำนวน 9 เปอร์เซ็นต์ที่เกิดในราศีนี้ ซึ่งก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจ เพราะชาวราศีเมษมักทำงานเก่ง ชอบทำงานในอาชีพที่ท้าทาย กล้าได้กล้าเสีย และกล้าเสี่ยงกับการลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนแบบปังๆ
ถัดมาในอีก 3 อันดับที่มีจำนวนมหาเศรษฐีในจำนวนราศีละ 8 เปอร์เซ็นต์เท่าๆ กันคือ ราศีเมถุน ราศีกรกฎ และราศีมังกร ราศีเมถุน (22 พ.ค. – 21 มิ.ย.) เป็นคนที่มีไอเดียเจ๋งตลอดเวลาๆ จึงเหมาะกับการริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ขอแค่มีเงินทุนและแรงกายเพียงพอ ราศีเมถุนจะกลายเป็นนักธุรกิจดาวรุ่งได้ไม่ยาก
ราศีกรกฎ (22 มิ.ย. – 22 ก.ค.) เป็นประเภทที่ชอบทำงานเพราะหวังการเจริญก้าวหน้าในอาชีพ ตัวอย่างมหาเศรษฐีที่มีวันเกิดในราศีเดียวกันคือ เจ้าพ่อเทคโนโลยีอย่างอีลอน มัสก์ (Elon Musk) แม้จะเป็นราศีที่ไม่ชอบเรื่องเงินๆ ทองๆ แต่เรื่องความทะเยอทะยานนี่ต้องยอมให้เขาจริงๆ และราศีมังกร (22 ธ.ค. – 20 ม.ค.)ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความเฉลียวฉลาด มีคุณสมบัติในการทำเรื่องที่คนทั่วไปทำไม่ได้ เป็นคนจริงจัง ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และมีความไอเดียความคิดสดใหม่ จุดเด่นที่จะทำให้ราศีนี้เป็นเศรษฐีคือมักมองเห็นช่องทางการขายของที่คนอื่นไม่เห็น โดยเศรษฐีที่มีราศีมังกรคือเจฟ เบโซส์ (Jeff Bezos) เจ้าพ่อแอมะซอน (Amazon) นั่นเอง
