ผู้ใช้เครียด NETA แพแตก ผู้บริหารหนีกลับจีน ทิ้งหนี้พันล้าน

วิกฤต NETA ในไทย หลังผู้บริหารจีนเผ่นกลับประเทศ ทิ้งหนี้ดีลเลอร์-ซัพพลายเออร์บาน กรมสรรพสามิตเตรียมเช็กบิลเรียกคืนภาษีและเงินอุดหนุน EV3.0

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำเอาวงการยานยนต์ไทยถึงกับหนาวสั่น เมื่อค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง เนต้า (NETA) ส่อแววปิดตำนานในประเทศไทยอย่างถาวร หลังมีรายงานว่าผู้บริหารชาวจีนตัดสินใจ “สละเรือ” เดินทางกลับประเทศและขาดการติดต่อ ทิ้งภาระหนี้สินมหาศาลไว้เบื้องหลัง ทั้งกับกลุ่มดีลเลอร์ ซัพพลายเออร์ และที่สำคัญที่สุดคือ “ผู้บริโภค” ที่ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

วิกฤตสภาพคล่อง NETA เมื่อบริษัทแม่ Hozon Auto ส่อแววล้มละลาย

สถานการณ์ของ NETA Auto Thailand เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤตอย่างหนักตามรอยบริษัทแม่ในจีนอย่าง Hozon Auto ที่กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ตามคำสั่งศาล แม้ก่อนหน้านี้จะมีการยืนยันว่าธุรกิจยังไปต่อได้ แต่ในทางปฏิบัติกลับสวนทาง เมื่อยอดขายในไทยปี 2567 ร่วงกราวรูดถึง 65% และล่าสุดในช่วงกลางปี 2568 นายซูน เปาหลง ผู้บริหารระดับสูงได้จองตั๋วเครื่องบินกลับจีนและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

NETA แพแตก ผู้บริหารหนีกลับจีน ทิ้งหนี้พันล้าน

โรงงานหยุดผลิต ดีลเลอร์ประกาศ Cut Loss หนีตาย

ผลกระทบที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดเมื่อ โรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้า NETA ในไทยได้หยุดสายการผลิตลง ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยตามเงื่อนไข มาตรการ EV 3.0 ที่ทำไว้กับภาครัฐได้ ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป กลุ่มดีลเลอร์กว่า 18 รายที่ถูกค้างชำระเงินสนับสนุนรวมกว่า 200 ล้านบาท ได้รวมตัวกันร้องเรียนต่อกรมสรรพสามิต ขณะที่บางรายยอมหั่นราคา NETA V-II เหลือไม่ถึง 4 แสนบาท เพื่อล้างสต็อกและยุติความสัมพันธ์กับแบรนด์นี้ทันที

ผู้ใช้รถระงม! ไร้ป้ายขาว-ขาดแคลนอะไหล่ NETA

ทางด้านผู้บริโภคที่ซื้อรถไปแล้วกว่า 220 ราย ได้เข้าร้องเรียนต่อสภาผู้บริโภค เนื่องจากปัญหา รถ NETA ไม่ได้ป้ายขาว ทำให้ไม่สามารถใช้งานบนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบปัญหา อะไหล่ NETA ขาดแคลน และศูนย์บริการที่ทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลใจให้กับผู้ใช้รถในระยะยาวว่าอาจถูกลอยแพอย่างสมบูรณ์

กรมสรรพสามิตเตรียมเช็กบิล เรียกคืนภาษีและเงินอุดหนุน
สำหรับความคืบหน้าด้านกฎหมาย กรมสรรพสามิตยืนยันว่าหาก NETA ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาผลิตรถชดเชยภายในสิ้นปี 2568 จะต้องเจอกับมาตรการขั้นเด็ดขาด ได้แก่:

• ​เรียกคืนสิทธิประโยชน์ภาษีสรรพสามิต โดยต้องจ่ายเพิ่มจาก 2% เป็น 8%

• ​เรียกคืนเงินอุดหนุนรถ EV จำนวน 150,000 บาทต่อคัน พร้อมดอกเบี้ย

• ​บทลงโทษค่าปรับทวีคูณ 1-2 เท่าตามกฎหมาย

​บทสรุปของ วิกฤต NETA ในไทย ครั้งนี้ ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของอุตสาหกรรม รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ความล้มเหลวเพียงจุดเดียวสามารถส่งผลกระทบเป็นโดมิโน กระทบทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนและหัวใจสำคัญที่สุดคือความไว้วางใจของผู้บริโภคชาวไทย

NETA แพแตก ผู้บริหารหนีกลับจีน ทิ้งหนี้พันล้านNETA แพแตก ผู้บริหารหนีกลับจีน ทิ้งหนี้พันล้าน

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ