จ่าทหารช้ำรัก หมดเกือบล้าน หลงกลพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน แถมลวงลงทุน

กรณี นาย วิชาญศิทย์ หรือ จ่าทหารช้ำรัก อายุ 50 ปี เข้าร้องทุกหลังถูกพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน ลวงลงทุนสูญเงินกว่า 6 แสนลาท ล่าสุด มีชายปริศนาโทรหาจ่าทหารบก อ้างเป็นผัวอีกคน แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธเสียงแข็ง บอกอย่าไปเชื่อ เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ย้อนเล่าเส้นทางปลูกต้นรัก รู้จักกันผ่านแอปหาคู่ คุยกันได้ประมาณสองสัปดาห์ พยาบาลสาวได้เริ่มชักชวนทำธุรกรรม ชวนบริจาคเงินให้เด็กทุรกันดาร และร่วมลงทุนทำธุรกิจ

จ่าทหารช้ำรัก หมดเกือบล้าน หลงกลพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน แถมลวงลงทุน

โดย จ่าทหารช้ำรัก เจอพยาบาลสาว อายุ 41 ปี นึกว่าจะเจอรักแท้ได้พูดคุยและคบหากัน ก่อนจะชวนร่วมลงทุน จนไปกู้เงินมาทำธุรกิจต่าง ๆ คบกันได้ประมาณ 6 เดือนหมดเงินไปกว่า 600,000-700,000 บาท

จ่าทหารช้ำรัก หมดเกือบล้าน หลงกลพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน แถมลวงลงทุน

กระทั่งวันหนึ่งมี ผู้ชายอีกคนหนึ่ง ของพยาบาลรายดังกล่าว คนที่คบซ้อนได้โทรหาผู้เสียหาย พยาบาลพอทราบได้มาอ้างว่าผู้ชายที่โทรหาผู้เสียหายเป็นแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ จ่าทหารผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองได้คบกับพยาบาลสาวรายนี้หลังจากเจอในแอปหาคู่ คุยกันได้ประมาณสองสัปดาห์ พยาบาลสาวได้เริ่มชักชวนทำธุรกรรม ชวนบริจาคเงินให้เด็กทุรกันดาร และร่วมลงทุนทำธุรกิจ ขณะนั้นมีการคืนเงินบ้าง คืนเป็นก้อน ๆ ตัวเองก็รู้สึกเชื่อใจตามปกติ และเชื่อว่าพยาบาลสามีวิชาชีพและมีคลินิก

จ่าทหารช้ำรัก หมดเกือบล้าน หลงกลพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน แถมลวงลงทุน แต่หลังจากนั้นได้ มีการกล่าวอ้างเรื่อย ๆ เพื่อหลอกให้ตัวเองโอนเงิน ทีแรกก็ขอยืมทีละน้อยๆ  หลักพันบาท จนลามไปหลักหมื่นบาท จนไปถึง การจำนำรถ และการจำนองที่ดิน // แบ่งเป็นหลาย ๆ เรื่อง ดังนี้

  • อ้างว่าพ่อป่วยเป็นมะเร็ง ต้องให้คีโม มีค่าใช้จ่ายสูง ขอยืมเงินโดยให้ตนเองกดออกจากบัตรให้ หลักพันถึงหลักหมื่นบาท
  • อ้างว่าพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจ ขอยืมเงินอ้างว่าต้องเอาหมอมาจากกรุงเทพ
  • อ้างว่าเรียนจบปริญญาโท และต้องชำระค่าจบการศึกษา 25,000 บาท ของยืมเงินในบัตรก่อนแล้วจะกดคืนให้ แต่เงียบไป
  •  อ้างว่า มียาและอุปกรณ์ทางการแพทย์มาส่งที่คลินิก ขอยืมอีก
  • ต่อมา อ้างว่า บัญชีโดนล็อก ซึ่งมีเงินฝากประจำอยู่กว่า 400,000 บาท ขอยืมทองไปจำนำ โดยจำนำไปสองครั้งในเดือนเดียวกัน ซึ่งครั้งที่สองอ้างว่า ให้พ่อผ่าตัดหัวใจอีก 25,000 บาท แล้วเดี๋ยวจะให้น้องคืนให้ แต่ถึงเวลาก็ไม่ได้คืน

นอกจากนี้ให้นำรถจักรยานยนต์ไปจำนำ เพื่อนำเงินมาหมุน และเสนอว่าให้เอารถจักรยานยนต์ออกมา และนำรถยนต์ไปจำนำแทน โดยสาวอ้างว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดนครปฐม และพูดจาน้ำไหลไฟดับให้เชื่อให้หลง จึงนำรถยนต์ไปจำนำราคา 50,000 บาท / แต่พยาบาลสาวไม่ให้ไปด้วย อ้างว่าจะไปกับน้องเอง // แต่พอถึงเวลาก็อ้างว่า เอาเงินไปหมุนก่อนตรวจพบเชื้อเอชพีวี ต้องนำเงินรักษา ต้องนำเงินรักษาที่เอกชนที่ รพ.เอกชน

จ่าทหารช้ำรัก หมดเกือบล้าน หลงกลพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน แถมลวงลงทุน ต่อมาอ้างว่าพ่อเส้นเลือดหัวใจตีบ ต้องเอาของที่จำนำไว้มารักษาพ่อ อ้างว่าเดี๋ยวให้น้องมาคืนตอนเย็น แต่ก็นำเงินไปหมุนก่อน ให้เอาที่ดินไปจำนอง สาม ครั้ง ราคา 40,000 บาท แต่ไม่ให้ใครรู้ อ้างว่าเงินจะได้ปลดล็อคเดือนหน้า จะได้เงิน ช่วงสิงหาคม-กันยายน แต่ก็ไม่ได้เอาออก วันต่อมาอ้างว่าจะนำเงินมาคืนให้จำนวน 36,000 บาท แต่พอถึงวันนัดหมายก็อ้างว่าวางกระเป๋าเงินทิ้งไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว จนเงินหาย /ตัวเองก็เริ่มเอะใจ แต่ก็ยังไม่ได้ทักท้วงอะไร
ต่อมา ขอยืมเงิน 12,000 บาท อ้างว่า ต้องจ่ายเงินค่าประกันชีวิต 17,000 บาท แต่มีอยู่เพียง 5000 บาท จึงมาขอยืมเพิ่ม

จ่าทหารช้ำรัก หมดเกือบล้าน หลงกลพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน แถมลวงลงทุน อ้างว่าต้องลงทะเบียนจ่ายเงินค่าอบรมวิชาชีพพยาบาล ต้องจ่ายไปก่อนแล้วได้คืนทีหลัง
ขอยืมเงินจ่ายค่าแชร์แบบ กระชั้นชิด  ขอยืมค่าจ่ายภาษีเพิ่ม อ้างว่าหากไม่จ่ายภาษีทางธนาคารจะไม่ปลดล็อคเงินให้ อ้างว่าทางอำเภอ บังคับให้สแกนจ่ายเงินสามงวด โดยถ่ายรูปบริเวณหน้าอำเภอมายืนยัน 2 กันยายน อ้างว่ามีข้อความจากธนาคารว่าจะปลดล็อคเงินให้ ให้ไปหากู้เงิน 15 กันยายน จะได้ค่าแชร์ 86,000 บาท

แต่เงินค่าแชร์โอนเข้าบัญชีที่ถูกล็อก อ้างว่าเงินค่ารักษาพ่อไม่พอให้ไปกู้เงินนอกระบบมาเพิ่ม แต่ให้ตนเองรับผิดชอบเอง คือช่วงเดือนตุลาคม พยาบาลสาว ได้โทรกลับมา พร้อมกับให้โอนมา 14,000 บาท อ้างว่าจะปลดล็อคบัญชี แต่ตัวเองไม่มีเงินแล้ว จึงเริ่มไปกู้เงินในแอพแอปพลิเคชั่น เพื่อจ่าย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ ซึ่งมีการกู้เงินไป 100,000 กว่าบาท แต่พอถึงเวลาจ่ายดอกพยาบาลสาวไม่ช่วยจ่าย

จ่าทหารช้ำรัก หมดเกือบล้าน หลงกลพยาบาลสาว หลอกคบซ้อน แถมลวงลงทุน

โดยสรุปคือส่วนใหญ่แล้วมักจะอ้างว่าพ่อป่วยแต่เมื่อเมื่อตัวเองเห็นพ่อของพยาบาลสาวก็พบว่าเดินเหินได้ตามปกติ   ตนเองเคยสงสัยและสอบถามกับพยาบาลสาว่าเหตุใดต้องใช้เงินเยอะขนาดนี้ ก็ถูกต่อว่าว่าทำไมต้องสงสัยนักหนา หรือ หากไม่ได้เงินจากตนเอง พยาบาลสาวก็จะขู่อ้างว่าหลังเงินปลดล็อคแล้ว 400,000 บาท จะคืนเงินให้และจะเลิกกัน แล้วจะหายไปสองวัน

นาย วิชาญศิทย์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมาลูกเคยเตือนแล้ว แต่ตนเองเห็นว่าพยาบาลสาวเคยรักษาแม่ตนเอง และมีโปรไฟล์ดี เคยนำยามาฉีดให้แม่ เคยหอบน้ำเกลือมารักษาลูก จึงหลงเชื่อ

จนกระทั่งต่อมา ความแตกเมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งโทรมาหาตนเองขณะกำลังไปทำงาน และตนเองได้บันทึกเสียงเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยผู้ชายรายดังกล่าวโทรมาสอบถามว่าตัวเองใช่ทนายจริงหรือไม่ ตนเองก็งง และทราบว่าฝ่ายหญิงไปอ้างกับ ผู้ชายคนนั้น ว่า ตนเองเป็นทนายช่วยเรื่องปัญหาฉ้อโกง มีปัญหาต้องไปขึ้นศาลกันแต่ไม่ต้องมาเพราะยกเลิกแล้ว ตนเองจึงบอกกับผู้ชายคนนั้นไปว่าตัวเองคบกับพยาบาลสาว จึงมีการสอบถามกันว่าครบตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็บอกว่าคบตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกันที่ฝ่ายหญิงคบซ้อน

ทั้งนี้ หาก พยาบาลสาว ดูอยู่ อยากให้มาใช้หนี้ที่ทำไว้และให้เอาที่ดินมาคืน ครอบครัวตนเองลำบากมาก เงินก็ไม่เหลือแล้ว ต้องยืมคนอื่นมาใช้บ้าง เงินคนแก่ที่แม่ได้ก็เอามาใช้

นอกจากนี้ผู้เสียหายยังเล่าอีกว่า ตัวเองเคยไปติดต่อทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ฝ่ายหญิงสังกัด ซึ่งให้ออกมาพูดคุยกันฝ่ายหญิงอ้างว่า วันที่ 7 พ.ย.67 จะคืนเงินให้ 100,000 บาท และจนถึงวันที่ 15 พย.67 จะเคลียร์ให้ทั้งหมดตามยอดหนี้ที่จดเอาไว้ พอถึงวันที่ 15 พ.ย. อ้างว่าสหกรณ์ไม่อนุมัติ เพราะเงินยอดเยอะเกินไป