“ภูมิธรรม”แจงแล้ว เบรกปิดด่าน หวั่นกระทบเศรษฐกิจและประชาชน

“ภูมิธรรม” ชี้แจง เบรกปิดด่านไทย-กัมพูชา หวั่นกระทบเศรษฐกิจและประชาชน พร้อมยืนยัน รัฐบาลกับกองทัพมีเอกภาพ มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชน

2มิ.ย.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาชี้แจงกรณีสั่งเบรกปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา หวั่นกระทบเศรษฐกิจ วิถีชีวิตประชาชน โดยมีใจความว่า เรียน สื่อมวลชน ทุกท่านตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน

\"ภูมิธรรม\"แจงแล้ว เบรกปิดด่าน หวั่นกระทบเศรษฐกิจและประชาชน

ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพฯ ได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดน

\"ภูมิธรรม\"แจงแล้ว เบรกปิดด่าน หวั่นกระทบเศรษฐกิจและประชาชน

ขณะนี้รัฐบาลเห็นว่า ท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลายแต่ขณะเดียวกันกองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน  ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC  เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย

ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน

\"ภูมิธรรม\"แจงแล้ว เบรกปิดด่าน หวั่นกระทบเศรษฐกิจและประชาชน

ที่ผ่านมาเราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ การศึกษาข้อมูลและผลกระทบด้านต่าง ๆ เพื่อจะให้การจัดการความขัดแย้งในครั้งนี้มีทางเลือกที่เหมาะสม จนสามารถดำเนินการให้ยุติลงด้วยวิถีทางตามหลักสันติภาพ และยุติธรรมในที่สุด เพื่อผลประโยชน์และความสงบสันติของประชาชนทุกฝ่าย