ประโยคเดียวช่วยชีวิต! นักศึกษาสาวถือมีดขึ้นโรงพัก พูดว่า “แมนยูชนะลิเวอร์พูล” ตำรวจเอะใจจนช่วยทัน
จากเหตุการณ์สุดระทึกในจังหวัดเชียงใหม่ นักศึกษาหญิงรายหนึ่งถือมีดเดินเข้าโรงพัก พร้อมพูดประโยคชวนสะดุดหูว่า “แมนยูชนะลิเวอร์พูล” กลายเป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตำรวจสังเกตความผิดปกติ และเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที
เหตุการณ์นี้กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ โดยเพจดัง Drama Addict ได้หยิบยกมาชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ “คำพูด” และ “การสังเกต” ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถพลิกสถานการณ์อันตรายให้กลายเป็นความปลอดภัยได้
จุดเริ่มต้นของแผนหลอกลวง
นักศึกษาหญิงรายดังกล่าวถูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาหลอกว่าเธอมีคดีความติดตัว หากไม่ยอมโอนเงินจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อเธอไม่สามารถหาเงินได้ทัน พวกคนร้ายจึงออกคำสั่งให้เธอสวมใส่หูฟัง และพูดคุยผ่านโทรศัพท์ตลอดเวลา โดยต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างไม่มีข้อแม้
หนึ่งในคำสั่งสุดอันตรายคือ ให้เธอ ถือมีดเดินเข้าโรงพัก พร้อมทำพฤติกรรมแปลกๆ เช่น เข็นรถผู้พิการ และเข้าไปหาตำรวจที่โต๊ะแจ้งความ
คำพูดที่ไม่สมเหตุสมผล จุดชนวนให้ตำรวจเอะใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เวรในขณะนั้น เริ่มรู้สึกผิดสังเกตจากท่าทีของนักศึกษา รวมถึงคำพูดแปลกๆ อย่าง “หนูไปฆ่าคนตายมา” และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “แมนยูชนะลิเวอร์พูล” ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ อีกทั้งในช่วงนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังมีฟอร์มที่ย่ำแย่ ทำให้คำพูดนี้ยิ่งชวนสงสัยว่าอาจมีเบื้องหลังบางอย่าง
เธอไม่ได้บ้า…แต่กำลังถูกบงการ
นักศึกษาหญิงรายนี้สวมชุดนักศึกษา ใส่หูฟังสมอลทอล์ก เดินเข็นรถผู้พิการอยู่บริเวณหน้า สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ก่อนจะเดินเข้าไปหาตำรวจพร้อมมีดในมือ ท่ามกลางความสงสัยของเจ้าหน้าที่ เมื่อพูดคุยพบว่าเธอพูดประโยคชวนสะดุดหูว่า “แมนยูชนะลิเวอร์พูล” ซึ่งไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ใดๆ เลย
เจ้าหน้าที่จึงพยายามพูดปลอบใจ ขอให้เธอวางมีดและวางสายโทรศัพท์ จนสุดท้ายเธอยอมให้ความร่วมมือ และสารภาพว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์สั่งการผ่านโทรศัพท์ตลอด 2 วัน ให้เดินทางมาที่โรงพักพร้อมมีด เพื่อสร้างสถานการณ์หลอกลวง โดยมีเป้าหมายบีบคั้นให้เธอหาเงินมาโอนให้มิจฉาชีพ
เบื้องลึกเบื้องหลังจาก สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์
พ.ต.อ.มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพรวมถึง 10 ราย โดยในจำนวนนี้มีถึง 9 รายที่มิจฉาชีพสามารถหลอกเอาเงินไปได้ รวมความเสียหายหลายล้านบาท ส่วนรายเดียวที่รอดพ้นได้ก็คือกรณีของนักศึกษาหญิงถือมีดรายนี้
ในจำนวนเหยื่อทั้งหมด แบ่งเป็น เหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 5 ราย และอีก 4 ราย ถูกหลอกในรูปแบบต่างๆ เช่น
- แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ข่มขู่ว่าผู้เสียหายมีความผิด
- ขู่ปล่อยคลิปส่วนตัวจากวิดีโอคอล แล้วบังคับให้โอนเงิน
- หลอกว่าได้ทุนการศึกษา แต่ต้องทำตามเงื่อนไขจนหมดเงิน
เฉพาะวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีนักศึกษาเข้าร้องทุกข์จำนวนมากในวันเดียว มีตั้งแต่เสียหายหลักพันถึงหลักล้านบาท เช่น นักศึกษาชายปี 2 รายหนึ่ง ถูกหลอกให้โอนเงินถึง 4 ครั้ง รวมกว่า 2 ล้านบาท ขณะที่อีกรายหนึ่งโอนไปกว่า 1 ล้านบาท
มิจฉาชีพ “ปั่นหัว” และ “เย้ยตำรวจ”
สิ่งที่น่าตกใจคือกรณีของนักศึกษาหญิงถือมีดนั้น แม้มิจฉาชีพจะยังไม่ได้เงินจากเธอ แต่กลับเป็นการ แสดงอำนาจควบคุมเหยื่อ และ “เย้ย” การทำงานของตำรวจอย่างชัดเจน โดยสั่งให้เธอแสดงพฤติกรรมประหลาด เดินไปมาหน้าโรงพัก เข็นรถผู้พิการ และสุดท้ายให้ถือมีดนั่งที่หน้าโต๊ะร้อยเวร
พ.ต.อ.มนัสชัย ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การถูกสะกดจิต แต่เป็นเทคนิคการกดดันทางจิตใจอย่างรุนแรง ด้วยคำขู่หลายรูปแบบ จนเหยื่อเกิดภาวะความสับสนและยอมทำตามทุกอย่างโดยไม่รู้ตัว
คำเตือนถึงมหาวิทยาลัยและสังคม
หลังเกิดเหตุการณ์ ตำรวจได้รีบแจ้งเตือนไปยังทางมหาวิทยาลัยเพื่อเร่งประชาสัมพันธ์ป้องกัน พร้อมทั้งย้ำว่า ทุกคนควรมีสติ อย่าหลงเชื่อคำขู่ใดๆ และหากสงสัยว่ากำลังถูกหลอกลวง ควรรีบปรึกษาครอบครัวหรือแจ้งความทันที
ด้านการช่วยเหลือเหยื่อ เบื้องต้น สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้ดำเนินการรับแจ้งความ อายัดบัญชีที่เกี่ยวข้อง และเร่งให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน
Beta feature
Beta feature