การตั้งชื่อเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะชื่อลูกที่พ่อแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะชื่อจะอยู่กับลูกไปตลอดชีวิต นอกจากความหมายอันเป็นมงคลแล้ว การตั้งชื่อยังต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายด้วย เพราะมีชื่อบางประเภทที่กฎหมายไทยห้ามตั้ง หากตั้งไปแล้วอาจต้องเสียเวลาแก้ไขให้ถูกต้อง บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจว่า “ชื่อแบบไหนที่กฎหมายไทยห้ามตั้ง” เพื่อให้คุณมั่นใจว่าชื่อที่คุณเลือกนั้นถูกต้องตามกฎหมายและเป็นสิริมงคลตลอดไป

ข้อห้ามในการตั้งชื่อจริง 

ห้ามใช้ชื่อที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมและความสงบเรียบร้อยของสังคม เช่น คำหยาบ ลามก หรือสื่อในทางเสื่อมเสีย

ห้ามใช้ชื่อที่มีเจตนาหลอกลวง หรือสร้างความเข้าใจผิดในสถานะบุคคล

ห้ามใช้ชื่อที่พ้องหรือคล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือราชวงศ์

ห้ามใช้คำว่า “ณ” นำหน้าชื่อสกุล เว้นแต่ได้รับพระราชทานโดยถูกต้อง

ห้ามตั้งชื่อที่มีพยัญชนะเกิน 10 ตัว (สำหรับชื่อสกุล)

ต้องสะกดคำและใช้ตัวการันต์ถูกต้องตามหลักภาษาไทย

ต้องเป็นชื่อที่มีความหมายอยู่ในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน

ห้ามใช้สัญลักษณ์พิเศษ เช่น /, *, @, # ฯลฯ ในชื่อ

ห้ามตั้งชื่อที่เป็นคำเดียวแล้วเว้นวรรคไม่ได้ เช่น ใช้พยางค์ซ้ำ ๆ

ห้ามใช้นามพระมหานครหรือศัพท์ในพระปรมาภิไธยเป็นชื่อสกุล

ตัวอย่างชื่อที่อาจเข้าข่าย “ห้ามตั้ง” (ตามหลักการ):

ชื่อที่คล้ายพระนาม: เช่น ภูมิพล, สิริกิติ์, วชิราลงกรณ์ (ยกเว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตหรือเป็นราชสกุล)

คำหยาบคาย: เช่น สัตว์บางประเภทที่มีความหมายไม่ดี, คำที่สื่อถึงอวัยวะเพศ, คำด่าต่างๆ

คำที่มีความหมายไม่เหมาะสม: เช่น กามินี (หญิงที่มีความใคร่), กาสร (ควาย), อวิญญู (โง่), มารยา (การแสร้งทำ) เป็นต้น

ชื่อที่สั้นเกินไปหรือยาวเกินไปจนผิดปกติ และไม่มีความหมายที่เหมาะสมตามหลักภาษา

ข้อควรทราบ:

การพิจารณาความเหมาะสมของชื่อเป็นดุลยพินิจของนายทะเบียนท้องที่ ซึ่งจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ในทางปฏิบัติ การตั้งชื่อในภาษาไทยค่อนข้างเปิดกว้าง ตราบใดที่ไม่ขัดต่อข้อห้ามพื้นฐานที่กล่าวมาข้างต้น และมีความหมายที่ดีเหมาะสม

หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับชื่อที่ต้องการตั้ง ควรปรึกษานายทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขต เพื่อขอคำแนะนำและตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง

การตั้งชื่อที่ดีควรมีความหมายมงคล เหมาะสมกับเพศ ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และไม่ขัดต่อขนบธรรมเนียมอันดีของสังคมครับ