พายุถล่มนครพนม ต้นไม้ 100 ปี โค่นทับเก๋งพังยับ สาวหนีฝนขึ้นรถ รอดตายปาฏิหาริย์ เผยเป็นครั้งที่ 2 ที่รอดชีวิต เชื่อเป็นผลบุญจากการทำบุญ
วันที่ 6 ก.ย.2567 ที่ จ.นครพนม จากอิทธิพลพายุโซนร้อนยางิ หลังขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม แผ่ปกคลุมที่ฝั่ง สปป.ลาว ส่งผลให้พื้นที่ จ.นครพนม มีพายุฝนตกกระหน่ำ แรงลมที่กระโชกรุนแรง ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ คือ ต้นอินทรีย์ หรือ ต้นหางนกยูง อายุ 100 ปี และอายุ 50 ปี หักโค่น 2 ต้น ล้มทับรถเก๋งสาว พังยับเยิน เหตุเกิดริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร
น.ส.กฤษณา กล่าวต่อว่า ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองจึงรีบวิ่งขึ้นไปหลบฝนในรถ ขณะนั้นได้ยินเสียงลมซัดแรง ต้นไม้ใหญ่ที่จอดหลบหักโค่นเสียงดังครืน จึงกรีดร้องด้วยความตกใจ โคนต้นไม้ผ่ากลางระหว่างเบาะคนขับและเบาะนั่งคนขับ หลังคายุบและกระจกแตกได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดี 2 คนมาช่วยออกจากรถ
ก่อนหน้านี้เคยขับรถแหกโค้งที่ จ.แพร่ มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด รอดตายมาแล้วครั้งหนึ่ง สาเหตุที่รอดตายวันนี้ไม่ได้ห้อยพระอะไร ส่วนใหญ่ทำบุญกับพ่อกับแม่และสัตว์จรจัด กระทั่งมาทำบุญที่บ้านย่าทวด เนื่องจากตนเป็นลูกสะใภ้ชาว อ.ท่าอุเทน ขับรถมาจอดใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่นึกว่าจะเกิดพายุลมแรงขนาดนี้ จึงรอดตายเป็นครั้งที่ 2
นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม สั่งการให้นายวัฒนศักดิ์ เจียวิริยบุญญา รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม นำเจ้าหน้าที่งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เทศบาลเมืองนครพนม ปิดกั้นการจราจรหน้าโรงเรียนสุนทรวิจิตร ริมฝั่งแม่น้ำโขง นำรถกระเช้าและเลื่อยยนต์ ตัดแต่งกิ่งต้นไม้จำนวน 2 ต้นที่หักโค่นล้มทับเสาไฟส่องสว่าง 1 ต้น และรถเก๋งประชาชนเสียหาย 1 คัน ใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมงจึงเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จ