เปิดภาพเส้นทางมรสุมเข้าไทย พื้นที่เสี่ยงเจอฝนตกหนัก เตรียมรับมือ

เปิดภาพเส้นทางมรสุมเข้าไทย พื้นที่เสี่ยงเจอฝนตกหนัก เตรียมรับมือ

วันที่ 11 ก.ย. 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดทผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.:(นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 11 -20 ก.ย.67 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) (วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ) เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย

11-12 ก.ย.67 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบนได้เคลื่อนตัวไปปกคลุมประเทศเมียนมาแล้ว ส่วนร่องมรสุมกลับมาพาดผ่านทางตอนบนของไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้หรือลมฝนที่พัดปกคลุมมีกำลังปานกลาง ฝนยังตกต่อเนื่องได้ด้านตะวันตกของภาคเหนือใกล้บริเวณที่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน (ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่) 1-2 วันนี้ ฝนจะเริ่มซาลงแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปิด มีแสงแดดบ้าง แต่สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างทางภาคเหนือยังต้องเฝ้าติดตามและระมัดระวัง

สำหรับภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยเฉพาะด้านรับมรสุม (บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต จันทบุรี และตราด) ยังมีฝนกระจาย โดยมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว ยังต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในบริเวณภาคเหนือ ใช้รถใช้ถนนระยะนี้ต้องระวังฝนตกถนนลื่นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนทะเลยังมีคลื่นลมมีกำลังปานกลาง ชาวเรือ ชาวประมงเดินเรือด้วยความระวัง รายละเอียดต้องติดตามข่าวพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

ช่วง 13-20 ก.ย.67 สถานการณ์และแนวโน้มของฝนบริเวณประเทศไทยจะมีการกระจายเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคอีสาน ภาคกลาง

ประกอบมรสุมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีกำลังแรงขึ้นและพัดเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคอีสาน ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น บริเวณภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคอีสาน ภาคกลาง(รวม กทม.และปริมณฑล) ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ต้องกลับมาเฝ้าระวังฝนตกหนักอีกช่วง โดยเฉพาะชาว กทม.และปริมณฑล นอกจากจะมีฝนหนักแล้ว

(ข้อมูลนี้ใช้เป็นแนวทางในการติดตามสภาพอากาศ ยังต้องติดตามด้วยข้อมูลจากผลการตรวจอากาศอื่นๆ ร่วมด้วย (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามข้อมูลที่มีการประมวลผลใหม่)