ชัดเจน! วงในตอบแล้ว ทำไม ‘The Voice’ ไม่มีใครร้องเพลงสากล

ชัดเจน! วงในเปิดเหตุผลทำไม รายการ ‘The Voice Thailand’ ไม่มีใครร้องเพลงสากล ลั่น คือจุดล่มสลายของการทำรายการเพลง!?

กลายเป็นประเด็นที่สังคมกำลังให้ความสนใจ สำหรับรายการแข่งขันร้องเพลงสุดยิ่งใหญ่อย่าง เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ (The Voice Thailand) ปี 2024 ในรอบบลายออดิชั่น (Blind Auditions)

หลังรายการออนแอร์ ไม่กี่ตอน ก็กลับเป็นประเด็นดราม่า ตั้งกระทู้ถกเดือดบนโลกออนไลน์ ว่าทำไมผู้เข้าแข่งขันในรายการ ถึงนำแต่เพลงไทยมาร้องประกวด ไม่มีใครนำเพลงสากลมาใช้ประกวดเหมือน ซีซันที่ผ่าน ๆ มา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Nutthavud Punsaichur” ที่ทำหน้าที่เป็น Music Director ในรายการ The Voice Thailand 2024 ได้ไขข้อสงสัย ถึงสาเหตุหลัก คือ เรื่องของค่าลิขสิทธิ์เพล

“เหตุผล.. ทำไม The Voice ปีนี้ไม่มีเพลงสากล…

นี่คือคำพูดจากเฟสพี่โอ๋ผู้จัดรายการเดอะว๊อยซ์ ซึ่งพี่โอ๋เป็นอดีตผู้บริหารค่ายวอร์เนอร์ มิวสิค จากการตอบประเด็นที่เพจ รีวิวเรื่อยเปื่อยเขียนถึง

“ขอขอบคุณเพราะรีวิวได้ตรงใจมาก รู้สึกอยากพูดอธิบายแต่กลัวดราม่า แต่อดไม่ไหวขอเล่าและระบายเรื่องลิขสิทธิ์เพลงสากลในปัจจุบัน.. ตัวเองเกิดและเติบโตมาจากค่ายเพลง Inter ทำวงการเพลงมา15ปี ฟังเพลงสากลมาครึ่งชีวิต ทำไมจะไม่อยากมีเพลงสากลในรายการ.. อยากตะโกนนนนนน ออกไปให้คนดูรู้ว่า ปีนี่สถานการณ์การเก็บลิขสิทธิ์เพลงสากลมันเปลี่ยนไป…

ในปัจจุบันการเผยแพร่ มันเข้าถึงกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นการใช้เพลงสากลในรายการต้องทำเรื่องไปขอเจ้าของลิขสิทธิ์ที่เป็นคนเขียนเนื้อร้องและทำนองเอง ไม่ได้ขอผ่านองค์กรในประเทศเหมือนตะก่อน ซึ่งบางเพลงมีคนถือสิทธิ์ 4-5 คน เพราะฉะนั้นกว่าจะทำเรื่องขอลิขสิทธิ์แต่ล่ะเพลง

กว่าจะหาเจอว่าใครถือสิทธิ์ครบใน1 เพลง ใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าจะได้ในแต่ล่ะเพลง ซึ่งในการทำงานการถ่ายทำเราไม่สามารถใช้เพลงนั่นได้ทันเพราะยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของครบ และอีกเรื่องคือราคา ค่าลิขสิทธิ์การใช้เพลงนั้นอยู่ที่ประมาณ 1,500-8,000 ฟังดูแล้วไม่แพง แต่อย่าลืมคูณ 37 เข้าไป เพราะเป็นเงิน US$

สำหรับรายการเรื่องค่าลิขสิทธิ์ไม่ใช่ประเด็นหลักเพราะเราอยากให้มีเพลงสากลอยู่แล้ว แต่สุดท้ายไม่กล้าใช้ถ้าเราไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่คุ้มกับการโดนฟ้อง เอาจริงเพลงสากลที่ร้องในรอบ blind นี่เราเอามาออกEp ท้ายๆๆ เพราะเพลงที่ร้องยังเคลียร์ไม่ครบเลย …. ทำไงดี เครียดโว้ย”
*****************


นี่คือจุดล่มสลายของการทำคอนเสิร์ต รายการเพลง คือเรื่องค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งผมเองผู้เป็นทั้งฝ่ายผู้รับค่าลิขสิทธิ์ และฝ่ายผู้จ่าย(ผู้จัด) ก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้

จริง ๆ แล้วมันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เร็ว เลยทำให้ระบบการจัดเก็บ ตามไม่ทันกับความเป็นจริง

ดังนั้น คนที่จัดคอนเสิร์ตได้จริง คือคนที่ถือลิขสิทธิ์เพลงเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นฝั่งไทย ก็หนีไม่พ้นเจ้าใหญ่อย่าง GMM ,RS สมัยก่อนสักสิบปีที่ผ่านมา คนจัดจะเลี่ยงไปใช้เพลงสากล

เพราะเป็นระบบการจัดเก็บกลาง จึงทำให้ง่ายต่อการขอ แต่ตอนนี้เพลงสากลก็เริ่มมีปัญหา น่าเป็นห่วงวงการจริง ๆ

ผมเคยต้องทิ้งงานไปอัลบั้มนึง ซึ่งเป็นงานบรรเลงเพลงสากลเก่าๆ เหตุเพราะหาผู้แต่งได้ไม่ครบทุกเพลง ซึ่งงานนั้นผมหาได้เกือบครบขาดไปเพลงนึง

คือ เพลง Besame Mucho ซึ่งจากการค้นหาบอกเป็นเพลงเก่าที่มีอายุเกิน50ปี หาชื่อผู้แต่งทำนองไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถขอโค๊ตผลิตซีดีจากกระทรวงพาณิชย์ได้….

ล่าสุด3ปีที่แล้ว เคยประกาศขายแมคที่เพิ่งซื้อมาเพื่อทำอัลบั้ม เพราะจะทำอัลบั้มเพลงเก่า แล้วเจอค่าลิขสิทธิ์ที่รวมแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางได้ทุนคืน ผมเลยตัดสินใจล้มกระดาน เพราะไม่อยากให้น้องที่เป็นเจ้าของโปรเจคต้องเจ็บตัว มีละครเวทีเรื่องนึง ที่ทำเรื่องย้อนวัย

ที่ขนาดคนจัดเป็นเจ้าใหญ่ของวงการ ก็ไม่สามารถใช้เพลงที่เป็นชื่อละครได้ เพราะเจอการเรียกค่าลิขสิทธิ์ที่ไม่สมดุลกับความเป็นจริง เห็นใจทั้งสองฝ่ายครับ ยังไงก็หวังว่าจะมีการจัดการที่ลงตัวในเร็ววัน….”