จากที่มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้เอาผิดกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป หลังชักชวนร่วมลงทุน ทำให้สูญเงินไปหลักแสนหลักล้านบาท โดยประเด็นนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ร่วมตรวจสอบ
หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน โดยตรวจสอบพบว่า มีการทำธุรกิจแบบผิดปกติ บริษัทดังกล่าวตั้งนิติบุคคลขึ้นมา วันที่ 1 มิ.ย.2561 มีกรรมการบริษัท 1 คน มีการยื่นหนังสือขอหารือการประกอบธุรกิจ วันที่ 13 มิ.ย. 61 แบบขายตรง
หลังจากส่งหนังสือดังกล่าวไปยังเลขาธิการสคบ.ในขณะนั้นแล้ว ทางเลขาธิการสคบ.เห็นด้วยว่ามีความไม่ชอบมาพากล เกี่ยวกับลักษณะการทำธุรกิจ จึงทำหนังสือ 3 ฉบับ เพื่อส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายนอกประกอบด้วย.
1.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ให้พิจารณาว่าเข้าข่ายธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือไม่ เนื่องจากกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลกฎหมายโดยตรง
2.ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านทางพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. เพื่อให้ดำเนินการเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว
3.ส่งถึงเลขาธิการอาหารและยา (อย.) เกี่ยวกับเรื่องการโฆษณาสินค้า
แต่ปรากฏว่าหลังส่งเรื่องออกไปแล้ว เรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป จนกระทั่งมาเจอปัญหาอย่างในปัจจุบัน โดยมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับบริษัทดังกล่าวจำนวนมาก