ร้องไห้ระงมวัด รับ 7 ศพ ปิกอัพคว่ำ หนุ่มเล่านาทีสุดช็อก โทรศัพท์แม่โทรหา แต่ปลายสายไม่ใช่แม่

ร้องไห้ระงมวัด รับ 7 ศพ ปิกอัพคว่ำ หนุ่มเล่านาทีสุดช็อก โทรศัพท์แม่โทรหา แต่ปลายสายไม่ใช่แม่

ร้องไห้ระงมวัด รับ 7 ศพ ปิกอัพคว่ำ หนุ่มเล่านาทีสุดช็อก โทรศัพท์แม่โทรหา แต่ปลายสายไม่ใช่แม่ แจ้งข่าวร้าย รถคว่ำดับยกคัน เผยตัวเองก็ไปด้วย

จากกรณีรถกระบะโตโยต้า ตอนครึ่ง สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1ฒส 3494 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมากัน 7 คน ประกอบด้วย 1.นายชูชีพ ใจเที่ยงธรรม อายุ 21 ปี คนขับ 2.นางนิตยา เกิดชาตรี อายุ 70 ปี ยายของ นายชูชีพ 3.นางศรีสุนันท์ พินันชัย อายุ 72 ปี พี่สาวของ นางนิตยา 4.นายศุภชัย บุญทัน 5.น.ส.ปภาวดี พรมโสภา 6. ด.ช.กิตตเมฆ ศิลาทอง และ 7. ด.ช.กิตตมุก ศิลาทอง เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ร่องกลางถนนสาย 41 บริเวณหน้าขนส่งไชยา ขาล่องใต้ กม.124 + 500 หมู่ 4 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 07.30 น.ทำให้ทั้ง 7 คนเสียชีวิต

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

ต่อมาเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน ผู้บริหารของมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ ได้รับทราบเหตุ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัยสายชล พร้อมรถพยาบาล จำนวน 7 คัน เดินทางไปรับศพกลับมาภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพทั้ง 7 ราย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับญาติของผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง

กระทั่งเวลา 19.40 น.ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติและเพื่อนบ้านกว่า 300 คน ซึ่งมารอรับศพตั้งแต่บ่ายโมง รถพยาบาล 4 คัน ซึ่งบรรทุกศพของนางนิตยา เกิดชาตรี, นางศรีสุนันท์ พินันชัย, นายศุภชัย บุญทัน และ นายชูชีพ ใจเที่ยงธรรม ได้เดินทางมาถึงยังศาลาอเนกประสงค์ของวัดดอนยาง หมู่ 3 ต.ดอนยาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นสถานที่ตั้งศพทั้ง 4 ราย

และเมื่อเจ้าหน้าที่ประจำรถ ได้เปิดประตูและนำศพทั้ง 4 ราย ซึ่งบรรจุอยู่ในโลงออกมาเพื่อเรียงบนเตียง เพื่อทำพิธีรดน้ำศพตามประเพณีความเชื่อเพื่อไว้อาลัยและขออโหสิกรรมต่อกัน ทุกคนต่างโผเข้าไปที่รถพร้อมร้องไห้ระงมลั่นศาลา บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับ เนื่องจากทุกคนในพื้นที่ให้ความรักและเคารพในตัวของ นางนิตยา เกิดชาตรี และ นางศรีสุนันท์ พินันชัย เป็นอย่างมาก

เนื้อหาที่ได้รับการโปรโมต

ในขณะเดียวกัน นายสาธิต เกิดชาตรี อายุ 38 ปี ลูกชายของ นางนิตยา เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางไปกับแม่และญาติที่เสียชีวิตในครั้งด้วย แต่ตนขับรถเก๋งไปอีกคัน โดยรถของตนไปกัน 4 คน ส่วนรถกระบะไปกัน 7 คน ซึ่งมีแม่ตนนั่งไปด้วย และมี นายชูชีพ เป็นคนขับ

นายสาธิต กล่าวว่า พวกตนเดินทางออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณตี 3 เศษ และเมื่อออกเดินไปด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ซึ่งตนเป็นรถนำหน้า และรถกระบะขับตามหลัง กระทั่งมาถึงปั๊มน้ำก่อนถึงสี่แยกเขาปีป อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งหากนับระยะทางจากบ้านมาตรงนี้ ประมาณ 100 กม. เมื่อทำธุระกันเป็นที่เรียบร้อย ต่างคนก็ขึ้นรถพร้อมเดินทาง โดยตนก็ขับนำ เช่นเดิม แต่เมื่อขับไปได้ระยะหนึ่ง ก็ไม่พบรถกระบะตามหลังมา ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไร จึงขับต่อไป

นายสาธิต กล่าวต่อว่า ต่อมาแม่ได้โทรศัพท์บอกตนว่า นายชูชีพ ง่วงนอน ขอจอดนอนข้างทางก่อน ตนก็รับทราบและขับต่อไปเรื่อยๆ และไม่ได้ขับเร็วแต่อย่างใด เพราะต้องขับรอกันไปอย่างไม่รีบร้อน กระทั่งประมาณ 8 โมง โทรศัพท์ดังขึ้นมาเมื่อตนรับก็เห็นเป็นเบอร์โทรของแม่โทรมา แต่คนที่พูดไม่ใช่แม่ เป็นเสียงของผู้ชายถามตนว่าเป็นอะไรกับเจ้าของโทรศัพท์ ตนก็บอกว่าเป็นลูกชาย และปลายสายก็บอกว่า รถที่แม่นั่งเกิดอุบัติเหตุ ขณะนี้นำส่ง รพ.แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าหนักแค่ไหน ตนจึงกลับมาดูก็พบว่าแม่และญาติเสียชีวิตหมดแล้ว

ตนคิดว่าการเกิดอุบัติเหตุในครั้ง น่าจะมาจากหลับใน เพราะก่อนหน้านี้ นายชูชีพ ได้ขับรถไปทำธุระที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกลับมาช่วงพลบค่ำของวันนั้นเลย โดย นายชูชีพ ต้องตื่นประมาณตี 1 เพื่อขับรถจากบ้านพักในตัวเมืองชุมพรมารับทุกคน ซึ่งคอยอยู่ที่บ้านใน ต.ดอนยาง อ.ปะทิว ระยะทางประมาณ 60 กม.แล้วก็ต้องเดินทางต่อทันที และเชื่อว่าเกิดอาการง่วง เพราะพักผ่อนน้อย แต่พยายามฝืน จนวูบหลับในรถเสียหลักชนต้นไม้และทำให้ทุกคนที่โดยสารกันมาเสียชีวิตดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในขณะเดียวกัน รถพยาบาลอีก 3 คัน ซึ่งบรรทุกศพ น.ส.ปภาวดี และลูกแฝด 2 ศพ ได้เดินทางมาถึง ณ วัดท่ายางเหนือ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายชุมพร-ปากน้ำชุมพร และทันทีที่รถมาถึงบรรดาญาติ เพื่อนบ้านและเพื่อนของผู้ตาย ต่างโผเข้าดูศพพร้อมร้องไห้กันดังลั่น ก่อนที่จะนำมาวางบรรจุเข้าโลงเย็น และนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 4 รูป ทำพิธีสวดบำเพ็ญกุศลเป็นคืนแรก

 

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature

  • Beta

Beta feature