โดยน.ส.เอ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เดินทางเข้ามาช่วยพ่อทำงาน ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน พ.ค.66 กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.66 เวลา 22.48 น.พ่อได้ย่ำยีตนครั้งแรก หลังจากนั้นทางพ่อใจบาป ก็ก่อเหตุทำการกระทำชำเรา น.ส.เอ มาตลอด ตั้งแต่เดือน มิ.ย.66 ซึ่งขณะนั้นแม่ยังไม่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และพ่อยังได้ข่มขู่ทุบตีสารพัด หากขัดขืนไม่ยอมให้ย่ำยี
จนกระทั่งหลังจากนั้นอีก 2 เดือน แม่พาน้องจากกัมพูชาตามมาอยู่ด้วยกัน ก็ยังถูกย่ำยี่ตลอด ทางฝ่ายแม่ก็ทราบ แต่ถูกข่มขู่ไม่ให้แม่ช่วยเหลือ หากขัดขืน จะถูกทำร้ายมาโดยตลอด ถึงตอนออกไปทำงานด้วยกัน พ่อ แม่ ลูก 3 คน ผู้เป็นพ่อรับเงินค่าจ้างไว้แต่เพียงผู้เดียว หากให้เงินเกรงว่าจะหลบหนี หรือไปแจ้งตำรวจ โดยจ่ายค่ากับข้าวให้แม่เลี้ยงดูลูก ๆ วันละ 100 บาท ให้ค่านมน้องวันละ 20 บาท ต่อมา พ่อได้มาก่อเหตุย่ำยีน้องสาวคนที่ 2 อีก ข่มขู่คนในครอบครัวห้ามขัดขืน ซึ่งแม่เคยขัดขืนจับแยกขณะย่ำยีลูกตอนกลางคืน โดนทำร้ายเกือบตาย จนทำให้เกรงกลัวกันทั้งบ้าน กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ม.ค.68 ทางพ่อใจบาปได้ก่อเหตุกับน้องสาว แล้วเปิดไฟในห้องจนสว่างแล้วบังคับให้แม่ และพี่สาวดูขณะกระทำย่ำยีน้องสาว จนทำใจไม่ได้กันทั้งครอบครัว วันรุ่งขึ้นเมื่อมีโอกาสหนี จึงพากันนั่งแท็กซี่มาที่ สน.มีนบุรี แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่ม “กระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ หนึ่งในสาม” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมา
Beta feature