กลายเป็นประเด็นใหญ่สำหรับ โมร็อกโก เจ้าภาพร่วมในการแข่งขันศึกฟุตบอลโลก 2030 ที่กำลังเดินหน้าวางแผนการจัดการให้ยิ่งใหญ่ และสวยงามสู่สายตาชาวโลก
โดยมีรายงานว่าพวกเขาได้ทำการกำจัดสุนัขจรจัดมากกว่า 3 ล้านตัวทั่วประเทศ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของสถานที่ต่างๆ ของประเทศให้สวยงามมากขึ้น หลังจากที่ประสบปัญหามีสุนัขจรจัดเกลื่อนถนนในตอนนี้
ล่าสุด เดลี่เมล์ สื่อดังอังกฤษได้เผยว่า เจน กูดดอลล์ นักรณรงค์เพื่อสิทธิสัตว์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เข้ามาตรวจอบเรื่องดังกล่าว “ฉันรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้รู้ข่าวจาก สหพันธ์สัตว์นานาชาติ มันเป็นรายงานบันทึกเหตุการณ์ที่น่าสยดสยอง”
“การกำจัดสุนัขดำเนินไปอย่างโหดร้ายทารุณ แต่ดูเหมือนว่าหลายฝ่ายจะเพิกเฉยต่อการกระทำในครั้งนี้ คุณต้องตระหนักว่าแฟนบอลทั่วโลกจะคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”
“หาก ฟีฟ่า ไม่ดำเนินการใดๆ ก็เท่ากับว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในเหตุการณ์โหดร้ายนี้ ฉันขอร้องให้หยุดดำเนินการสังหารหมู่ มันมีทางเลือกอื่นๆ มากมาย และองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งยินดีให้ความช่วยเหลือกับปัญหาสุนัขจรจัดล้นเมือง”
สำหรับในรายงานของ สหพันธ์สัตว์นานาชาติ (IAWPC) มีการอ้างว่า สุนัขจะถูกวางยาพิษ รวมถึงมีคนใช้ปืนลาดตระเวนตามท้องถนน 24 ชั่วโมง ขณะที่บางเขตก็จะมีเจ้าหน้าที่จับขึ้นรถบรรทุก ก่อนนำไปยังสถานที่กำจัดอย่างทารุณ
โดยในรายงานชี้ว่านับตั้งแต่ที่ ฟีฟ่า ประกาศให้ โมร็อกโก, โปรตุเกส และสเปน เป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2023 การสังหารสุนัขก็ได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ทาง โมร็อกโก ก็ได้ออกมาอ้างว่าโครงการดังกล่าวได้ถูกระงับไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2024 แต่ในรายงานเผยว่ามันเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น
Beta feature
Beta feature
Beta feature
Beta feature
Beta feature