
แถมทางครอบครัวของเธอนั้นมีฐานะค่อนข้างดี อีกทั้งยังเป็นลูกคนเดียว ในขณะที่สภาพครอบครัวของฝ่ายชายนั้นค่อนข้างยากจน ทำให้พ่อแม่ของเธอคัดค้านความสัมพันธ์มาโดยตลอด จนกระทั่งล่าสุดถึงวันที่เธอถูกยื่นคำขาดว่า ต้องเลิกกับแฟนหนุ่มจริง ๆ นั่นจึงทำให้ เสี่ยวซูตัดสินใจบอกลาด้วยการส่งข้อความ หลังจากคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงร่ายข้อความยาวเกือบ 300 คำ ส่งไปทาง WeChat โดยจินตนาการว่าแฟนหนุ่มจะพยายามยื้อความสัมพันธ์ไว้ด้วยความจริงใจ
แต่แล้วเมื่ออีกฝ่ายอ่านสิ่งที่แทบเรียกได้ว่าเป็นเรียงความบทหนึ่งจบแล้ว กลับตอบมาเพียงว่า เห็นด้วย เท่านั้น และไม่ว่าจะรออีกนานเท่าไหร่ ก็ไม่มีการตอบกลับอื่นใดจากอีกฝ่ายเลย ทำให้เธอทรุดลงด้วยความปวดใจทันที บวกกับความแปลกใจและสงสัยว่าเหตุใดแฟนหนุ่มถึงทำเช่นนี้
โดย เสี่ยวซู พูดในคลิปวิดีโอที่เธอโพสต์ว่า เรารักกันมา 4 ปีแล้ว และเรายังคงมีความรู้สึกต่อกันอยู่ ฉันใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการเขียนบทความยาว ๆ เกี่ยวกับการเลิกราของเรา แต่เขาตอบกลับเพียงสองคำเท่านั้น จะไม่ทำให้ฉันเสียใจได้อย่างไร รู้สึกว่า ความสัมพันธ์ที่ฉันมีนี้มันไม่คุ้มเลย เขาใจร้ายเกินไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ชาวเน็ตส่วนใหญ่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า คำตอบของแฟนตั้งสองคำ ถือว่ามากแล้ว เพราะถ้าเป็นฉัน ฉันคงไม่ตอบ ในเมื่ออยากจะเลิกกันทำไมยังต้องตอบกลับอีก คุณบอกเลิกเขาแล้ว แต่ยังนั่งคิดว่า จำนวนคำในการตอบของเขาน้อยเกินไป และยังคิดว่าเขาไม่มีความรู้สึก นี่มันตรรกะอะไร ฝ่ายที่เริ่มต้นการเลิกรา เขาควรคนที่โดยตำหนิว่าไม่มีความรู้สึก และคุณไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิอีกฝ่าย
Beta feature