เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 ได้รับแจ้งว่ามีการบริการนวดแฝงการให้บริการทางเพศกับลูกค้า ผู้กระทำผิดน่าจะเป็นคนต่างด้าวที่ลักลอบให้บริการนวดและแอบค้าบริการทางเพศ มีการเปิดกลุ่มลับในเทเลแกรมสำหรับลงภาพถ่ายที่เข้าข่ายลามกอนาจารของพนักงานร้าน เพื่อใช้ในการโฆษณาเชิญชวนให้ลูกค้ามาใช้บริการ และไว้ส่ง ‘การบ้าน’ จากทางลูกค้าที่เคยใช้บริการจำนวนหลายราย
จึงได้สั่งการให้ทีมกองสืบ ตม.3 และตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นร้านนวดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยได้ส่งสายลับเข้าไปใช้บริการนวด และล่อซื้อบริการทางเพศจากหมอนวดชาวเมียนมา เมื่อได้หลักฐานเพียงพอสายลับจึงให้สัญญาณแก่เจ้าหน้าที่ นำกำลังเข้าตรวจค้น
ร้านดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เปิดบริการนวดบังหน้า แต่มีการให้บริการทางเพศเป็นบริการเสริม และขณะเข้าตรวจค้น พบ น.ส.เลมอน (นามสมมติ) อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา กำลังให้บริการนวดแก่สายลับและเสนอให้บริการทางเพศในราคา 2,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมของกลางเป็นธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อ ถุงยางอนามัย และเจลหล่อลื่น อยู่ภายในกระเป๋าของ น.ส.เลมอน
นอกจากนี้ ยังพบ น.ส.หญิง (นามสมมติ) พนักงานนวดอีกราย ซึ่งเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนฯ ที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ให้การยอมรับว่ารับงานนวดจากเจ้าของร้าน โดยได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 100 บาท
เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมตัว น.ส.ขนม และนายอมยิ้ม (นามสมมติ) ที่เป็นทั้งเจ้าของและแอดมินของทางร้าน พร้อมโทรศัพท์มือถือของกลางที่ใช้ส่งข้อความ ส่งภาพภายในกลุ่มลับ และรับจองจากลูกค้ารายต่างๆ
จากการตรวจค้นภายในร้าน พบถุงยางอนามัยที่ยังไม่ใช้จำนวนหลายสิบกล่อง เจลหล่อลื่น อยู่ภายในล็อกเกอร์ของทางร้าน และถุงยางอนามัยใช้แล้วอยู่ในถังขยะภายในห้องนวด
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริง โดย น.ส.เลมอน ให้การว่ารับงานนวดและขายบริการทางเพศจริง ส่วนเจ้าของร้านรับว่าเป็นผู้ดูแลจัดการร้าน และรับรู้ถึงการขายบริการทางเพศของพนักงานกับลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวเป็นอีกปัญหาที่สะท้อนถึงการลักลอบประกอบอาชีพของคนต่างด้าว ซึ่งในทางกฎหมายอาชีพนวดแผนโบราณเป็นอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทยเท่านั้น หากแต่เจ้าของสถานประกอบการกับลักลอบนำคนต่างด้าวมาทำงาน ทั้งยังแอบแฝงบริการทางเพศเอาไว้ด้วย
ต่อมา ขณะจับกุมยังพบอีกว่ามีการโฆษณาเชิญชวน โดยการส่งภาพลามกอนาจารที่เรียกว่าการส่งการบ้าน จากลูกค้าในกลุ่มเทเลแกรม อันเป็นการนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งภาพลามก การกระทำดังกล่าวมีลักษณะเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ทั้งความผิดตาม พรก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี และเป็นความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย
ซึ่งกรณีเช่นนี้จะกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันจับกุมอย่างจริงจัง และให้ดำเนินความผิดในทุกฐานความผิดตามตัวบทกฎหมายที่ยกมาข้างต้นอย่างต่อเนื่อง

Beta feature
Beta feature
Beta feature