ตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย 1.นายธนาวุฒิฯ อายุ 19 ปี 2.นายส่วยฯ อายุ 21 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอกหรือรับของโจร”สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อข้างวัดเกิดกลางอุดม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ของกลางที่ตรวจยึด
1.รถยนต์กระบะ สีเทา จำนวน 1 คัน
2.รถจักรยานยนต์ สีดำแดง จำนวน 1 คัน
3.เอกสารหนังสือสัญญากู้เงินตามกฎหมายใหม่หรือหนังสือสัญญาค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 1 ฉบับ


ผู้เสียหายจึงไม่สามารถติดตามรถยนต์ของตนเองกลับคืนได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เข้าร้องทุกข์ดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่ สน.ดอนเมือง ต่อมาจึงได้ร้องขอให้กองบังคับการปราบปราม ช่วยติดตามรถยนต์คันดังกล่าวคืนให้โดยด่วน เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับรถยนต์คันดังกล่าว หรือนำไปใช้ในลักษณะที่ผิดกฎหมาย
เนื่องจากเป็นคดีที่สนใจของสังคมในวงกว้าง ประกอบกับจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบกลุ่มผู้ต้องหามี ผู้มีอิทธิพล ในพื้นที่ อ.คลองหลวง คอยให้ความช่วยเหลือในการประกอบธุรกิจรับจำนำรถยนต์
ต่อมาชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้มีการนำมาฝากจำนำเพื่อค้ำประกันเงินกู้กับชายไทยชื่อ “นายแฮค” หรือ “แฮค คลองหลวง” ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสุวรรณ์ฯ ซึ่งเป็นเจ้ามือปล่อยเงินกู้รายใหญ่ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ใช้ชื่อ FACEBOOK ในการโฆษณารับจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกชนิด ชุดสืบสวนจึงได้วางแผนทำการล่อซื้อรถยนต์คันดังกล่าว โดยติดต่อกับนายแฮค เพื่อนัดหมายดูสภาพรถยนต์กันก่อนที่จะตกลงเรื่องราคากัน ซึ่งนายแฮค ได้เป็นผู้กำหนดนัดหมายที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ

จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้วางกำลังไปเฝ้าดูบริเวณดังกล่าว ต่อมาพบนายธนาวุฒิฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าคันที่ชุดสืบสวนติดตามอยู่ มาจอดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ และพบนายส่วยฯ ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อมาลากูติ มาดูต้นทางและทำหน้าที่คอยรับนายธนาวุฒิฯ กลับหลังทำเรื่องซื้อขายรถยนต์เสร็จ
จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวและเข้าควบคุมตัวนายธนาวุฒิฯ และนายส่วยฯ จากการเข้าตรวจค้นรถยนต์ของกลาง พบว่าเป็นรถยนต์กระบะคันที่ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้ พร้อมกับพบเอกสารการรับจำนำรถยนต์ ระบุชื่อผู้เช่าเป็นผู้ขอจำนำรถยนต์ กับนายสุวรรณ์ฯ หรือนายแฮค เป็นผู้รับจำนำรถยนต์ของกลาง
จากการสอบถามนายธนาวุฒิฯ รับว่าตนได้รับคำสั่งจากนายแฮคฯ ซึ่งได้ว่าจ้างให้ตนขับขี่รถยนต์ของกลางดังกล่าวมาตามจุดนัดพบ และนายส่วยฯ รับว่าตนเป็นผู้มาคอยดูต้นทางและคอยรับนายธนาวุฒิฯ กลับ หลังซื้อชายรถยนต์กันเสร็จ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลการสืบสวน ซึ่งนายธนาวุฒิฯ และ นายส่วยฯ ทราบอยู่แล้วว่ารถยนต์ของกลางคันดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดหรือที่เรียกว่า “รถยนต์หลุดจำนำ” จากนั้นชุดสืบสวนได้ทำการตรวจยึดรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไว้เป็นของกลาง

และแจ้งพฤติการณ์การกระทำความผิดให้นายธนาวุฒิฯ และนายส่วยฯ ทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถที่ได้มาจากการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันยักยอกหรือรับของโจร” พร้อมได้ทำการแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้นำตัวผู้ถูกจับกุมทั้งสองรายพร้อมของกลางส่ง พงส.สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังการจับกุม ชุดสืบสวนได้เร่งติดตามล่าตัวนายสุวรรณ์ มีนาหรือนายแฮค จนพบและนำตัวมา ส่ง พงส.สน.ดอนเมือง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา