
วันที่ 14 เม.ย. 2568 แม่ชี อายุ 74 ปี จำวัดอยู่ที่วัด ใน อ.เมืองอุบลราชธานี ได้โทรศัพท์แจ้งศูนย์รับแจ้งเหตุ สภ.เมืองอุบลราชธานี ระบุว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา ถูกสามเณรนราวิทย์ ซึ่งจำวัดอยู่ที่วัดเดียวกัน บุกเข้าห้องกุฏิและใช้กำลังหมายจะขืนใจ แต่แม่ชีได้ร้องให้คนช่วย สามเณรจึงหลบหนีไป
จากการสอบสวน แม่ชี ให้การว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 4 ที่สามเณรรูปนี้ก่อเหตุรังแก โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา ครั้งที่ 2 วันที่ 11 ธันวาคม และครั้งที่ 3 วันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งได้แจ้งให้เจ้าอาวาสวัดทุ่งศรีเมืองทราบแล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ
ครั้งล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. สามเณรนราวิทย์ได้มาที่กุฏิและขอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เมื่อแม่ชีหันไปหยิบ สามเณรได้บุกเข้าห้อง ใช้มือปิดปากและพยายามกดแม่ชีลงพื้น แต่แม่ชีฮึดสู้และร้องให้คนช่วย สามเณรจึงหลบหนีไป
หลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจสายตรวจได้เดินทางมาตรวจสอบ แต่ไม่มีพนักงานสอบสวนมาด้วย แม่ชี ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจสายตรวจฟัง แต่ตำรวจเพียงสอบถามข้อมูลและบอกว่า แม่ชีไม่มีหลักฐาน และสามเณรยังเป็นเยาวชน อีกทั้งช่วงนี้ ตำรวจมีงานสงกรานต์ จึงให้แม่ชีไปพบร้อยเวรที่สถานีตำรวจเอง
แม่ชีถวิล รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยติดตามเรื่องนี้ ในขณะที่ เจ้าอาวาส ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และแม่ชีได้แจ้งให้ทราบทุกครั้งที่เกิดเหตุ ท่านต้องการให้สามเณรรูปดังกล่าวออกจากวัดไป
ล่าสุุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเพื่อนเณรว่า สามเณรนราวิทย์กำลังเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี และมีพฤติกรรมเก็บตัวเงียบพูดน้อย
ส่วน แม่ชีเป็นชาวอำเภอตระการพืชผล บวชมาแล้วกว่า 16 ปี จบปริญญาตรีจากประเทศอินเดีย และกำลังจะศึกษาต่อปริญญาโท เคยได้รับเกียรติบัตรจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี และได้บริจาคร่างกายให้แก่ ม.ขอนแก่น