พยานปากเอก เล่า อินฟลูเอ็นเซอร์ คนจ้าง “น้องมาร์ค” ยัดเงินตำรวจ ก่อนตรวจฉี่ เห็นจำนวนเงินแล้วบอกเลย ซวยทั้งหมด
หลังจากที่ เพจ “ท่านเปา” ได้โพสต์ภาพชายหนุ่มพร้อมข้อความว่า “ญาติร้องขอความเป็นธรรม หลังชายหนุ่มคนหนึ่งรับงานเอนเตอร์เทนจากอินฟลูเอนเซอร์ชาย ก่อนถูกบังคับให้เสพยา สุดท้ายช็อกเสียชีวิต ร่างถูกพบในแม่น้ำ ผ่านมา 3 เดือน คดีเงียบ ผลชันสูตรไม่คืบ พบพิรุธหลายจุด” ก่อนจะทราบต่อมาว่า หนุ่มเอนเตอร์เทนคนดังกล่าวมีชื่อว่า นายพงศธร หรือ มาร์ค อายุ 27 ปี

ล่าสุดญาติของ น้องมาร์คได้มาออกรายการโหนกระแส ซึ่ง น.ส.ไก่ แม่ของน้องมาร์ค เปิดเผยว่า ลูกชายพักอยู่ที่จังหวัดชลบุรี และมักรับงานดีเจตามปาร์ตี้ต่าง ๆ จนกระทั่งปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มาร์คแจ้งว่าจะไปรับงานเอนเตอร์เทนในกรุงเทพฯ กับชายสองคนชื่อ “รินทร์” และ “มิว” ระหว่างวันที่ 26 – 28 กุมภาพันธ์ 2568
ในคืนวันที่ 27 ก.พ. น.ส.ไก่ได้วิดีโอคอลกับลูกชาย สังเกตเห็นใบหน้ามาร์คบวมผิดปกติ แต่เจ้าตัวบอกว่าเพิ่งไปฉีดหน้า พร้อมเล่าว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวดูคล้ายภูเขาและแม่น้ำ
เช้าวันต่อมา ญาติได้รับแจ้งว่ามาร์คหายตัวไปจากแพ โดยไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ของมาร์คพยายามโทรหาผู้ร่วมทริป ได้คุยกับมิว เพื่อนของมาร์ค ซึ่งบอกแค่ “ไม่ต้องมา” แต่เธอตัดสินใจขับรถจากพัทยาไปกาญจนบุรีทันที และระหว่างทางได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่า พบศพมาร์คในแม่น้ำแล้ว
ทั้งนี้ ลักษณะศพและข้อสงสัยมากมายเพราะ ร่างของมาร์คมีลักษณะผิดปกติ ได้แก่
กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง
แขน-ขางอ ตัวเกร็ง หลับตาแน่น
มีเลือดออกจากหู จมูก ปาก ตา
ที่โรงพัก น.ส.ไก่ได้พบกับ “รินทร์” และ “มิว” ซึ่งอ้างว่ามาร์คเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยเล่าว่าในคืนเกิดเหตุ มาร์คนอนคนเดียวในห้อง ส่วนทั้งคู่ไปนอนอีกห้องหนึ่ง เมื่อตื่นมาไม่เจอตัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ค้นหา ภายหลัง ขณะรับศพมาประกอบพิธีที่จังหวัดพิษณุโลก ครอบครัวสังเกตเห็น รอยเข็มที่ข้อพับแขน ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นรอยจากการฉีดฟอร์มาลีน แต่ก็ยังเป็นข้อสงสัย เพราะไม่มีข้อมูลยืนยันจากตำรวจหรือโรงพยาบาล
ขณะเดียวกัน นายมิว หนึ่งในผู้ร่วมเหตุการณ์ และ เป็นพยานในเรื่องนี้ได้ออกมาเปิดเผยว่า
- “รินทร์” (อินฟลูเอ็นเซอร์) เป็นผู้จัดปาร์ตี้ยา และเป็น LGBTQ อายุ 49 ปี
- มีการบังคับให้มาร์คและมิวเสพยาไอซ์ และดูดพอดเค
- รินทร์ผสมยาและ ฉีดเข้าร่างมาร์คถึง 2 ครั้ง
- มาร์คไม่เต็มใจ แต่รินทร์บอกว่าจะเพิ่มค่าจ้างให้ 2 เท่า
- หลังฉีดยา มาร์คไม่มีอารมณ์ทางเพศ เพราะมาร์คเป็นผู้ชาย ไม่ได้ชอบ LGBTQ ทำให้รินทร์ไม่พอใจ
- คืนที่สอง รินทร์เพิ่มปริมาณยาอีกเท่าตัว ร่างกายมาร์คเริ่มรับไม่ไหว
- ช่วงตี 3 ของคืนที่สอง มาร์คเดินออกมาหน้าห้อง ก่อนหายตัวไป
- ช่วงตี 5 รินทร์แจ้งว่ามาร์คหายไป และเริ่มเก็บอุปกรณ์เสพยา
- รินทร์สั่งให้โยนเข็มฉีดยาทิ้งน้ำ และบอกให้โกหกแม่ว่าไม่ต้องมา

อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่องการตรวจปัสสาวะและพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ ซึ่งเกิดจากหลังเกิดเหตุ ที่ตำรวจ สภ.ศรีสวัสดิ์ นำตัวมิวและรินทร์ตรวจปัสสาวะ และพบว่าฉี่ของมิว มีสีม่วง (มีสารเสพติด) แต่ รินทร์กลับไม่ม่วง ทั้งที่ไปเสพยาด้วยกัน มิวบอกว่า รินทร์จ่ายเงินให้ตำรวจ 60,000 บาท เพื่อสลับตัวอย่างปัสสาวะ รินทร์กดเงินสด และใช้ฉี่เจ้าหน้าที่ส่งตรวจแทนของตน
- ความคืบหน้าคดี
คดีไม่คืบหน้า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา
ผลชันสูตรเพิ่งจะออกในวันที่ออกรายการ
ตำรวจอยู่ระหว่างการเดินทางไปรับผล
ครอบครัวจึงประสานกับ กองปราบฯ และ ทนายรณณรงค์ เพื่อขอให้โอนคดีไปยังหน่วยงานกลางทำต่อ หวังให้ความจริงปรากฏ
