แม่ช้างใช้หัวดันรถบรรทุก ไม่ยอมไปไหน ก่อนรู้สาเหตุสุดบีบหัวใจ

แม่ช้างใช้หัวดันรถบรรทุก ไม่ยอมไปไหน ก่อนรู้สาเหตุสุดบีบหัวใจ

ตกใจ แม่ช้างพยายามใช้หัวดันรถบรรทุก อย่างมีความหวังไม่ยอมไปไหน ก่อนรู้สาเหตุสุดบีบหัวใจ ยิ่งความจริงชาวเน็ตน้ำตาไหล

วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ซึ่งตรงกับวันแม่ของประเทศมาเลเซีย ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อแม่ช้างตัวหนึ่งแสดงอาการโศกเศร้า พยายามใช้หัวและลำตัวดันรถบรรทุกขนาดใหญ่ ด้วยความหวังที่จะช่วยลูกช้างที่ถูกรถคันดังกล่าวชนจนเสียชีวิต

แม่ช้างใช้หัวดันรถบรรทุก ไม่ยอมไปไหน ก่อนรู้สาเหตุสุดบีบหัวใจ
  • อุบัติเหตุเกิดช่วงเช้ามืด กลางทางด่วนสายอีสต์-เวสต์

เหตุเกิดในเวลาประมาณ 03:30 น. บนทางด่วนสาย East-West พื้นที่เมืองกัวลากังซาร์ รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย ลูกช้างเพศผู้ อายุประมาณ 5 ปี น้ำหนักราว 700 กิโลกรัม ถูกรถบรรทุกชนและร่างของมันถูกทับอยู่ใต้ท้องรถ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

การจราจรถูกขัดขวาง เนื่องจาก แม่ช้างยังคงยืนอยู่ในจุดเกิดเหตุ ไม่ยอมไปไหน

  • ภาพสะเทือนใจ แม่ช้างพยายามช่วยลูกทั้งที่ไม่มีหวัง

คลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียลเผยให้เห็นภาพแม่ช้างกำลังแนบหัวกับรถบรรทุก และส่งเสียงร้องออกมาเป็นระยะ บางครั้งพยายามออกแรงดันรถด้วยความหวังว่าจะสามารถช่วยชีวิตลูกช้างที่ติดอยู่ใต้ท้องรถได้ แต่น่าเศร้าที่ความพยายามนั้นไม่เป็นผล

  • เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์พื้นที่ พร้อมดูแลแม่ช้าง

กรมอุทยานแห่งชาติและคุ้มครองสัตว์ป่ารัฐเปรัก (PERHILITAN) ได้รับแจ้งเหตุในเวลาเดียวกัน และส่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อ เคลื่อนย้ายซากลูกช้างออกจากใต้ท้องรถ พร้อมนำไปฝังตามขั้นตอน

แม่ช้างใช้หัวดันรถบรรทุก ไม่ยอมไปไหน ก่อนรู้สาเหตุสุดบีบหัวใจ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ พาแม่ช้างอายุประมาณ 25-27 ปี ออกจากจุดเกิดเหตุ และจะมีการเฝ้าติดตามสุขภาพของแม่ช้างอย่างใกล้ชิด ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติในพื้นที่ปลอดภัย

  • ความพยายามป้องกันยังไม่เพียงพอ

ทาง PERHILITAN ระบุว่า ได้มีการติดตั้ง ป้ายเตือนสัตว์ป่า ไฟถนน และจุดตรวจ บนทางด่วนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ แต่การเดินเพ่นพ่านของช้างป่าในบางพื้นที่ยังคงเกิดขึ้น และด้วยข้อจำกัดด้านกำลังคน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถลาดตระเวนได้ทั่วถึงทุกกิโลเมตร

จึงขอความร่วมมือจากผู้ใช้รถใช้ถนนให้ เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยแนะนำให้เดินทางในช่วงเวลา 10:00 – 16:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ปลอดภัยที่สุด

  • ยังไม่ชัดเจนเรื่องคนขับรถบรรทุก

จนถึงขณะนี้ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวคนขับรถบรรทุกที่เกิดเหตุ และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายหรือไม่

แม่ช้างใช้หัวดันรถบรรทุก ไม่ยอมไปไหน ก่อนรู้สาเหตุสุดบีบหัวใจ