ว่าแล้วทำไมแพงจัง ทุเรียนร้านดัง โกงตาชั่งล่าสุดย่องขนของหนีตอนเที่ยงคืน

25 มิ.ย. 2567 เวลา 11:21 น.

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่า ทุเรียนแยกมาบโป่ง ร้านดัง(โกงตาชั่ง)ยิ่งลูกใหญ่ ยิ่งโกงแยะทีเป็นโล(ถ้าไม่อาการใส่ผมๆก็ไม่เอาเรื่องหรอก)

โดยจะเห็นว่าเจ้าของคลิปซึ่งเป็นลูกค้า ได้มาซื้อทุเรียน จากนั้นได้ให้แม่ค้าช่างน้ำหนักให้ดูต่อหน้า ปรากฏว่าแม่ค้าได้หยิบทุเรียนไปชั่งที่ตาชั่งที่ตั้งอยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นตาชั่งคนละตัวที่คนขายซึ่งเป็นผู้ชาย ได้นำทุเรียนไปชั่งบนตาชั่งที่อยู่ด้านบน ซึ่งพบว่าน้ำหนักหายไป 2 ขีด (เท่ากับว่าเหลือน้ำหนัก 8 ขีด) จากน้ำหนัก 1 กิโลกรัม จึงมีการปะทะคารม เถียงกันเรื่องน้ำหนักทุเรียนที่หายไป

ลูกค้าคนนี้ยังคาใจ จึงยกทุเรียนลูกใหญ่ไปชั่ง ทดสอบดูให้มั่นใจ ปรากฏว่าทุเรียนลูกดังกล่าวมีน้ำหนัก 5.9 กิโลกรัม จากนั้นยกทุเรียนลูกเดียวกันไปชั่งบนตาชั่งที่อยู่ด้านล่าง ผลที่ออกมาคือ ทุเรียนมีน้ำหนักเพียงแค่ 4.5 กิโลกรัม พบว่าน้ำหนักของทุเรียนลูกเดียวกันหายไปถึง 1.5 กิโลกรัม พอเห็นแบบนี้จะ ๆ คาตา เจ้าของร้านพูดไม่ออก พูดเพียงขอโทษ อาจเกิดจากข้อผิดพลาดของตาชั่ง

หลังจากที่ได้โพสต์คลิปและข้อความดังกล่าวออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก อาทิ เสียเลยร้านนี้ เคยแต่มองแต่ไม่กล้าซื้อ บางคนรีวิวร้านนี้รับประกันเนื้อ, ความจริงเปิดเผย ก็ว่าทำไมแพงจัง, ต้องให้กระทรวงพาณิชย์เข้าตรวจสอบ ตาชั่ง, 2~3ขีดก็หลายบาทนะคะ, ร้านอย่างนี้ต้องเจอแบบนี้ค่ะ และอื่นๆอีกมากมาย

 

 

ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 09.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. 2567 เมื่อเดินทางไปยังร้านทุเรียนดังกล่าวพบว่าได้ปลดป้ายออก และขนของหนีไปหมดเกลี้ยงไม่เหลืออะไรในร้านมีเพียงร้านเปล่าๆ

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ข้างๆกัน ให้ข้อมูลว่า ตนมาอยู่ตรงนี้ 3 ปีแล้ว แต่ร้านทุเรียนมาอยู่ก่อนเพราะเห็นขายทุเรียนแล้ว มีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนเยอะมากในทุกๆวัน และขายดีด้วย มีทั้งขาจรและขาประจำขนาดตนยังซื้อกินเพราะอยู่ข้างๆ แต่ไม่คิดว่าร้านจะโกงตาชั่งแบบนี้