กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ สามีไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่

กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ! สามีบอกเลิก-ไล่ออกจากบ้าน ทั้งฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่ เผยเหตุผลที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก สำหรับนักแสดงสาว “กบ พิมลรัตน์” ถึงเรื่องความสัมพันธ์กับสามีนักธุรกิจ หลังก่อนหน้านี้ถูกจับตาว่าเลิกรากับสามีแล้ว หลังจับได้อีกฝ่ายมี 2 บ้าน โดยล่าสุดสาวกบได้ออกมาเล่าในรายการคุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี ดีเจพุฒ พุฒิชัย และ เอส กันตพงศ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ สามีไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่

มีเพจดังลงข่าวโยงถึงพี่กบ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?
กบ : ในส่วนของสามี กบเคยทราบว่าเคยมีครอบครัวมาก่อน แต่ตอนมาแต่งงานก็เคลียร์เรียบร้อย เราตัวติดกันตลอด ไม่เคยห่างกันเลย ยกเว้นเวลาเขาไปทำงาน เป็นแบบนี้ทุกวัน มันมีเหตุการณ์สะสมหลายๆ อย่าง ทั้งที่เราอดทน และเราทนไม่ไหวแล้ว ที่ผ่านมาเราดีลกับตัวเองได้ เรายอมรับ สิ่งที่เราทนไม่ได้คือ ชอบบอกเลิกตลอดเวลา เราคิดว่าเขาคงมีปม คงมีเหตุและผล ก็พยายามเข้าใจเขา แต่หาเหตุผลไม่เจอ เราได้บอกเขาไม่พูดได้ไหม มีการหยุดไปสักพัก แต่หลังๆ ก็มีการบอกให้ยกของออกไปจากบ้าน ให้กบยกของออกไป ปีที่แล้วจะบอกเลิกรายเดือน ไม่มีสาเหตุ

เรายังเป็นเหมือนเดิมนะ เรื่องที่หาจุดลงตัวได้ก็กลับมาเป็นประเด็นอีก มันจะมีช่วงโควิดค่ะ แต่เราก็พยายามจะเข้าใจเพราะการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป เราก็เป็น เขาเหมือนคนไฮเปอร์ เราก็อยู่บ้าน ทำอาหารให้ดูแลเต็มที่ ทั้งที่ทำไม่ค่อยเก่ง แต่เราก็รู้สึกเหมือนเขาใจไม่อยู่ แต่ตัวอยู่ เราก็มีการสงสัยและมีการถามและเคลียร์กัน แล้วก็มีการเปลี่ยนแปลงหลังโควิดบอกไม่ต้องขึ้นมาได้มั้ย เพราะก่อนหน้านี้เหมือนเขาเป็นเด็กน้อยติดเรา พอขึ้นไปก็ไล่ลง บอกไม่ชอบขนหมา เขาเป็นคนพูดเองว่าอยากมีเวลาส่วนตัวให้ตัวเองเยอะขึ้น

อะไรเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ตัดสินใจเลิก?
กบ : ก็เนี่ยแหละค่ะ เป็นประเด็นที่ชอบบอกเลิก และให้ยกของออกนั่นคือฟางเส้นสุดท้าย มันก็ยังมีหลายอย่างที่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็ให้เขามาคุยกัน

กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ สามีไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่

สาเหตุที่หยุดความสัมพันธ์เพราะมีเพจข่าวที่ออกมาพูด?
กบ : ที่หยุดเพราะมีเพื่อนเขาส่งรูปมาให้ ตอนนั้นอยู่ในขั้นต่อรอง หลังจากนั้นเราก็ตัดสินใจแล้วนิ่งเงียบ หลังจากนั้นก็ให้คนส่งรูปมาให้ว่าเขาไปเปิดตัวครอบครัวกับคนอื่นเรียบร้อยแล้ว

ทราบมาก่อนมั้ยเขาเคยมีครอบครัวมาก่อน?
กบ : คือก่อนหน้านี้รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว แต่เหมือนกับว่าตอนมาแต่งงานก็เคลียร์เรียบร้อย เราตัวติดกันตลอด ไม่เคยห่างกันเลย ยกเว้นเวลาเขาไปทำงาน เป็นแบบนี้ทุกวัน

กบ : เรารู้สึกปลดล็อกนะหลังได้เห็น (ร้องไห้) ไม่ได้ช็อก แต่ปลดล็อกตัวเอง เหมือนกับว่ามันหมดพันธนาการแล้ว เหมือนเราอยู่ด้วยความรักและประคับประครองให้ดีที่สุด นิสัยเราเป็นคนชอบทำงาน ทำงานตั้งแต่ 10 กว่า ทำงานตั้งแต่เด็ก เราไม่อยากเป็นภาระให้ใคร ชอบหาเงิน

กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ สามีไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่

ปลดล็อกหมายถึงอะไร?
กบ : ไม่ได้ไปยึดติดกับเขาแล้ว เหมือนได้กลับมาเป็นตัวเอง เหมือนก่อนหน้านี้ที่เขาเราหลายๆ อย่างที่เขาขอ มันเป็นความชอบของเราเลย ไม่อยากให้ทำงานในวงการ ไม่อยากให้แต่งตัวแบบนี้ ไม่ชอบให้คบเพื่อน และอื่นๆ อีกมากมาย ตอนแรกก็พยายามต่อรองมากที่สุด ว่าคนเราต้องมีสตางค์เป็นของตัวเอง เราเข้าใจว่าเขาดูแลเราได้ คือแต่เราก็ต้องมี ที่ยอมแกเพราะว่าช่วงที่คบยังมีการโปรโมตหนังเรื่องอื่นอยู่แต่พอกลับมาแล้วก็ทะเลาะ เขาเลยบอกอยากให้เราโฟกัสที่ธุรกิจเขาดีกว่า

ทำไมถึงยอมมาตลอด 9 ปี?
กบ : จริงๆ หลังโควิดเขาก็ให้เรากลับมาทำงานแล้ว แต่บทยังไม่พอใจ พอตอนที่เขาไม่ติดเราก็มองเป็นโอกาสเราก็เริ่มมาทำคอนเทนต์เรื่องความงามมากขึ้น แต่เขาก็มองว่าน่าเกลียดทำไมต้องมาชายหน้าชายตา ซึ่งมันก็เป็นรูปแบบการทำงานของเรา

ตลอดที่แต่งงานกัน 9 ปีมีความสุขจริงๆ ใช่มั้ยหรือแกล้งเอาใจสามี?
กบ : ผ่านมา 9 ปี ทั้งมีความสุขจริงๆ และแกล้งมีความสุขเอาใจสามี (ร้องไห้) อย่างหนึ่งก็คือเรารู้ว่าเรามีใคร อย่างที่สองคือตั้งใจจะประคับประคองให้ดีที่สุด การตัวติดกันมันก็อบอุ่น หรือเวลาเราทะเลาะกันแค่นอนที่อกมันก็รู้สึกอบอุ่น บุคลิกเขาเราก็มองว่ามันน่ารัก ด้วยอายุที่ห่างกันมันก็จะมีความน่าเอ็นดู น่ารัก

กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ สามีไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่

เขาเข้าใจเราบ้างมั้ย?
กบ : คิดว่าเขาไม่เข้าใจเรานะ บอกว่าเข้าใจ แต่เวลาคุยทุกอย่างที่คุยกันจะเป็นไปในทิศทางเขาเสมอ ถ้าคุยไม่ลงตัวก็จะปรับไปทางจิตแพทย์ บอกเราคิดไปเอง บ้าหรือเปล่า ไปหาหมอไหม เจอมากๆ เข้า เราก็เลยสงสัยในตัวเอง ไม่ชอบในตัวเอง วันที่เขามาคุยกันเราเขามีการมาปรับทุกข์ว่าเขามีความผิดพลาดในการมีครอบครัวมา และคุยกับเราว่าอยากจะมีครอบครัวที่ดีๆ

อายุห่างกัน 19 ปีมีส่วนปรับจูนยากมั้ย?
กบ : ยากค่ะ ก็ไม่มีประสบการณ์คบคนที่โตกว่า คนนี้คนแรก เขามาจากครอบครัวคนจีนจัดๆ เราก็ไทยจัดๆ ก็เลยต้องปรับกันทุกเรื่องเลย

ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า?
กบ : ก็ต้องแต่เราสงสัยว่าเราไม่ดีพอ

เป็นซึมเศร้าแล้วไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เลย?
กบ : อาการไม่อยากตื่น ไม่อยากให้ฟ้าสว่าง ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่มีคุณค่า เพราะเกิดจากที่เราไม่ได้ทำงาน งานที่เรารักนะ งานของเขาเราก็ดูแลในส่วนของพีอาร์ มาเก็ตติ้ง และซัพพอร์ตเขามากกว่า

กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ สามีไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่
ความรู้สึกตอนนี้ยังมีมั้ย?

กบ : ไม่มีนะ ตั้งแต่รู้สึกปลดล็อก 24 ชั่วโมงยังไม่เคยพอเลย ได้ทำนั่นทำนี่แล้วไม่มีใครมาว่า โลกซึมเศร้าก็ดีขึ้นยาลดลง ก็คุมอาการ ช่วงที่บอกเลิกกันก็เดอะแบก แบกไว้กับตัวเอง มีช่วงหนึ่งหยุดแล้วหายไปแล้ว พอทำตามเขาปัญหาก็ไม่มี เราก็แลก ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากเขา

ตอนนี้ใช้คำว่าเลิกแล้ว แต่เคลียร์กันไม่ลงตัว?
กบ : ใช่ค่ะ คือหลังเลิกแล้วก็ยังเคลียร์ไม่ลงตัว เพราะเราบอกให้เขามาคุย เขาก็ส่งคนมาคุยก็ยังไม่ลงตัว มีการต่อรองแบบที่ข่าวออกไป อย่างขอไปอยู่กับลูก 2 วัน ก็เพิ่มเลเวลแบบที่ข่าวออก 50/50 เราก็เข้าใจไม่ใช่ไม่เข้าใจ เลยคิดว่าพอดีกว่า

ใช้ชีวิตอยู่กับเขา 9 ปีทำไมไม่มีการจดทะเบียนสมรส?
กบ : เราคุยกันตั้งแต่แรก แต่ก็ยังไม่มีการทำ เป็นส่วนหนึ่งที่เราฟ้องด้วย คือมันมีการคุย เขาทำเกี่ยวกับธุรกิจไม่ขอลงดีเทล 5 ปีจะจดทะเบียน อีก5 ปีเราก็ถามอีกก็มีเหตุผลอีก เราก็ทวงถามก็กลายว่าเราเป็นคนไม่ดี ในกรณีของเรามันมีการตกแต่ง ถึงไม่มีลายลักษณ์อักษรตามที่ตกลงไว้แต่มันมีภาพออกไปแล้ว

กบ พิมลรัตน์ เล่าทั้งน้ำตา สุดช้ำ สามีไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายชายเปิดตัวครอบครัวใหม่

ทนาย : เป็นเรื่องของผิดสัญญาหมั้น เพราะฉะนั้นการหมั้นคือการให้สัญญาว่าจะสมรส และไม่สมรสสิ่งที่เรียกได้คือค่าชดเชย สามารถเรียกร้องได้

หลังจากที่ฟ้องเขาติดต่อมาบ้างมั้ย?
กบ : หลังจากที่ฟ้องไปก็มีติดต่อให้ไปเจอ แต่ไม่ให้เอาทนายไป ให้คุยกันเพื่อปรับให้ลงตัว เขาก็ยืนยันอยากจะเจอส่วนตัว ที่ยื่นโนติสเพราะเรารู้สึกว่าถูกริดรอนสิทธิ์และไม่ถูกทำตามสัญญา

อยากให้จบลงยังไงเรื่องนี้?
กบ : ก็อยากให้มีความเป็นธรรมที่สุด

ถ้าเขาเปลี่ยนใจ และกลับมาคุยสามารถปรับเปลี่ยนได้มั้ย?
กบ : คิดว่ามันสายเกินไปแล้วค่ะ

ยังรักเขาอยู่มั้ย?
กบ : ต้องตัดใจค่ะ คนเรามันรักกันอยู่แล้วคบกันมาขนาดนี้

เรื่องที่เกิดขึ้นสอนอะไรบ้าง?
กบ : ควรจะรักตัวเองมากกว่าคนอื่น เราดีกับคนได้มีเมตตากับคนได้ แต่ต้องเลือกให้ถูกคน

เห็นว่าจะบริจาคร่างกายด้วย?
ไหนๆ ก็ได้ชีวิตใหม่กลับมาแล้ว ก็จะส่งต่อตัวเราให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น