ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทางกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการให้ สพฐ. ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ทาง สพฐ. ได้ส่งนิติกรลงพื้นที่ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว (สพม.สระแก้ว) แล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง
และในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์สนั่น จากผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่ง ที่ออกมาเผยผลสอบของ ปิยะโสภิชา ที่ได้สอบได้อันดับ1 ในการประกาศครั้งที่ 2 แทนที่ของ ครูเบญ โดยบอกว่า สาวรายนี้้เป็นคนเก่งระดับหัวกะทิ สนามนี้ใครสอบผ่านคือหัวกะทิ
แชร์กันไปมั่งสิ อันที่น้อง ปิยะโสภิชา เค้าสอบติดนะ ปี 67 นี้ สอบติดรอเรียกบรรจุ 1 สนาม รอเรียก สัมภาษณ์ครูผู้ช่วยอาชีวะอีก 1 สนาม ไปแชร์แต่อันที่เค้าสอบไม่ติด สนามนี้ใครสอบผ่านคือหัวกะทินะ พี่ไม่ได้พูดเอง เพจศูนย์สอบธรรมศาสตร์เป็นคนพูด แชร์ไปให้ถึง โหนกระแส หนุ่มกรรชัย สพม.สระแก้ว จะไม่โพสต์เรื่องนี้แล้ว
พร้อมมีการบอกอีกว่า ทำไมชื่อน้องคนแรก ( ครูเบญ) หายไป มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้ไหม ชื่อหายเพราะประกาศชื่อผิด เพราะเลขลำดับผู้เข้าสอบของน้องสองคนติดกันเลย เลข ๑๐๐๔๐๐๒๐ กับ ๑๐๐๔๐๐๒๑ (เลขไทย) มีโอกาสที่จะคีย์เลขท้ายผิดโดยไม่ทวนรายชื่อ ส่วนลำดับที่ 2-10 รายชื่อครบ แต่สลับอันดับกัน ตามคำชี้แจงที่บอกว่าเฉลยข้อสอบผิด
ก่อนหน้านี้ ปิยะโสภิชา ได้ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ใจ กรณีการประกาศผลสอบพนักงานราชการครูที่ สพม.สระแก้ว ออกมาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและยืนยันว่าจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพครูจากมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ซึ่งครอบครัวของเธอไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ และเธอต้องทำงานพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระทาง
พร้อมยอมรับว่า เดิมเธอจบเอกฟิสิกส์แต่พบว่าเป็นจุดอ่อน จึงหันมาสอบวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไปแทน เธอเคยสอบครูผู้ช่วยหลายครั้งในหลายจังหวัด และได้นำประสบการณ์จากความล้มเหลวมาปรับปรุงตัวเอง โดยอ่านหนังสือหนัก ลงคอร์สติว และขอใบเทียบหน่วยกิต นอกจากนี้ เธอยังสอบติดครูอาชีวะเอกวิทยาศาสตร์ และกำลังรอสัมภาษณ์